ผงะ! พบซากศพตายนานนับเดือนห่อเสื่อน้ำมัน ชาวบ้านสงสัยหนุ่มเพิ่งพ้นคุก

ผงะ! พบซากศพตายนานนับเดือนห่อเสื่อน้ำมัน ชาวบ้านสงสัยหนุ่มเพิ่งพ้นคุก

ผงะ! พบซากศพตายนานนับเดือนห่อเสื่อน้ำมัน ชาวบ้านสงสัยหนุ่มเพิ่งพ้นคุก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านผงะคิดว่าซากหมาเน่าที่แท้เป็นศพโครงกระดูกมนุษย์ห่อด้วยเสื่อน้ำมันทิ้งในป่ากฐิน แพทย์ชันสูตรคาดว่าเสียชีวิตไม่น่าต่ำกว่า 1 เดือน คุมตัวหนุ่มต้องสงสัยบ้านห่างจุดเกิดเหตุแค่ 10 เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีชาวบ้านพบศพเหลือแต่โครงกระดูกถูกห่อด้วยเสื่อน้ำมัน ทิ้งไว้ริมถนนในหมู่บ้านห้วยตีนตั่ง สายนครไทย – ภูหินร่องกล้า พื้นที่หมู่ 1 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย

ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบซากศพที่เหลือเพียงโครงกระดูกมนุษย์ถูกห่อหุ้มด้วยเสื่อน้ำมันลายตารางสีน้ำตาลขาวหมกอยู่ในพงหญ้าริมถนน สภาพศพเน่าเปื่อยจนเหลือแต่โครงกระดูกส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่ว

จากการตรวจสอบพบเป็นศพเพศชายที่กะโหลกศีรษะมีรอยถูกตีด้วยของแข็งจนเป็นรู คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำซากศพส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก

จากการสอบสวน นางยอดรัก อายุ 47 ปี ผู้พบศพเป็นคนแรก ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองได้เดินทางมาถางหญ้าในที่ดินของตนเองที่อยู่ติดกับริมถนน ระหว่างที่ทำการถางหญ้าอยู่นั้นได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากสัตว์ ที่คิดว่าเป็นซากสุนัขที่อาจถูกรถชนตาย จึงเดินหาที่มาของกลิ่นจนไปพบแต่ก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าไม่ใช่ซากของสุนัขแต่เป็นเป็นซากศพโครงกระดูกของมนุษย์ จึงรีบไปแจ้งเพื่อนบ้านและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกันตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 357 หมู่ 1 ต.เนินเพิ่ม ที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเพียง 10 เมตร เนื่องจากมีชาวบ้านแจ้งว่าว่าเสื่อน้ำมันที่ปูในพื้นบ้านตรงกับเสื่อน้ำมันที่ห่อหุ้มซากศพ และมีคราบเลือดอยู่ที่พื้นปูนหน้าบ้านและในบ้าน

โดยมี นายตรีภพ อายุ 25 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน จึงขอตรวจค้นภายในบ้าน พบเสื้อและกางเกงเปื้อนคราบเลือดที่ติดแห้งอยู่ จึงนำไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอว่าตรงกันกับซากศพที่พบหรือไม่ พร้อมทั้งควบคุมตัวนายตรีภพไปสอบสวนปากคำที่ สภ.นครไทย

ด้าน นายตรีเพชร  อายุ 49 ปี บิดาของนายตรีภพ เปิดเผยว่า บุตรชายเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกคดียาเสพติดมาช่วงสงกรานต์ปีนี้ และยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง บุตรชายจะมีนิสัยโมโหร้ายจนตนและภรรยาต้องแยกไปอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งหากบุตรชายมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นและทำผิดจริงก็ต้องรับโทษไปตามกฎหมาย แต่ขณะนี้เป็นเพียงแค่ผู้ต้องสงสัยเท่านั้น ต้องรอให้ทางตำรวจสอบสวนอย่างละเอียด

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook