ลือสนั่น! แบ่งเค้กไม่ลงตัว ส่อแววพลังประชารัฐหักดิบใช้ 250 ส.ว.โหวตหนุน "ลุงตู่"
ฝุ่นตลบกันเลยทีเดียวสำหรับเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) หลังจากช่วงเย็นพรรคประชาธิปัตย์นัดประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรค แต่ปรากฏว่าต้องยกเลิกไปแบบไม่มีกำหนด พร้อมกับคำชี้แจงที่ตามมาผ่านโฆษกพรรคและแกนนำพรรคบางคนในทำนองว่า พรรคพลังประชารัฐมีปัญหาภายในยังตกลงกันไม่ลงตัว ไม่ยอมให้คำตอบในเงื่อนไขหรือข้อตกลงที่ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมยื่นไปให้เมื่อวันก่อน เลยทำให้วงประชุมที่จะพิจารณาเพื่อมีมติว่าจะไปร่วมหรือไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐยังไม่มีข้อมูลเพียงพอประกอบการตัดสินใจ
>> ประชาธิปัตย์เลื่อนประชุมฟ้าผ่า! หลังพลังประชารัฐ-ลุงตู่ ไร้สัญญาณตอบรับข้อเสนอ
แกนนำ ส. ขอคุมเกษตรแลกพลังงาน ค่ายสีฟ้ายังไม่โอเค
แม้นักการเมืองของค่ายสีฟ้าจะปฏิเสธว่าการที่พรรคตนเองยังไม่มีมติออกมาอย่างชัดเจนนั้นเป็นเพราะความติดขัดปัญหาภายในของฝั่งพลังประชารัฐเป็นหลัก แต่ทว่าก็ปรากฏข่าวออกมาตามหน้าสื่อหลายสำนักว่า การเจรจาต่อรองระหว่าง "เจ้าบ่าวพลังประชารัฐ" กับเจ้าสาวหรือพรรคการเมืองที่จะมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังมีประเด็นที่ยังไม่เคลียร์คัตชัดเจนอยู่เลย
เมื่อวานนี้ แหล่งข่าวที่คลุกวงในติดตามเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิดให้ข้อมูล Sanook! News ว่า หนึ่งในแกนนำกลุ่มสามมิตร ชื่อนำหน้าว่า ส. ในพลังประชารัฐที่หมายมั่นปั้นมือจะกลับมาคุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงขนาดจับจองไว้ตั้งแต่ไก่โห่ก่อนเลือกตั้งซะอีก แต่กลับกลายเป็นว่ากระทรวงที่หมายปองไว้ถูกดึงไปให้โควตากับค่ายสีฟ้าแทน จนต้องลุกขึ้นมาเปรยว่าถ้าไม่ได้คุมกระทรวงพระพิรุณเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรอันเป็นที่รัก อาจพิจารณาพา ส.ส.ในสังกัดที่เคลมว่ามีอยู่ราว 30 ชีวิตย้ายพรรคกลับไปซบรังเก่า
เป็นเหตุให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองถึงขนาดต้องต่อสายไปเจรจากับพรรคที่เพิ่งจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ไปหมาดๆ ว่าขอโควตากระทรวงเกษตรฯ คืนกลับมา แล้วเอากระทรวงพลังงานไปแทน แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะหลังวงประชุมล่มไป ประชาธิปัตย์ก็ส่งโฆษกออกมาแถลงสาเหตุที่ยกเลิกประชุม หนึ่งในคำอธิบายบางช่วงบางตอนก็ย้ำว่าพรรคอยากดูแลนโยบายด้านการเกษตรที่หาเสียงไป เพื่อขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
นี่ยังไม่นับว่าการที่ผู้ใหญ่คนดังกล่าวไปยื่นข้อเสนอยกกระทรวงพลังงานให้ประชาธิปัตย์แลกกับกระทรวงเกษตรฯ ก็ทำให้แกนนำพลังประชารัฐระดับรองหัวหน้าพรรคบางคนที่หวังว่าจะได้ดูแลกระทรวงพลังงานแอบผิดหวังเล็กๆ อีกต่างหาก
>> ประชาธิปัตย์ ยังรอ พลังประชารัฐ เดินหน้าคุยต่อร่วมรัฐบาล ขอเก้าอี้ 8 รมต.
พลังประชารัฐเล็งผนึกกำลัง ส.ว. โหวตเลือกนายกฯ
ทำไปทำมาฝั่งพลังประชารัฐเลยออกมาให้ข่าวทำนองว่า ถ้าถึงช่วงเวลาที่ต้องโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วยังตกลงรายละเอียดกับประชาธิปัตย์ไม่ลงตัวก็ไม่กังวล เพราะจะใช้เสียงสนับสนุนของพรรคตนเองรวมกับพรรคเล็กอื่นๆ พร้อมเสียงสนับสนุนจาก 250 ส.ว. โหวตเลือกนายกฯ ไปก่อน แล้วค่อยมาเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลทีหลัง หรือถ้าเอาแบบให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ อุ้มลุงตู่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีรอบ 2 ให้ได้ก่อน แล้วเรื่องอื่นค่อยมาว่ากัน
และก็สอดรับกันชนิดลงตัวเป๊ะๆ เมื่อ เสรี สุวรรณภานนท์ หนึ่งใน ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กกลางดึกเมื่อคืนนี้ที่สรุปลงท้ายไว้ว่า "...หากพรรคการเมืองยังไม่สามารถหรือยังไม่ยุติที่จะรวมตัวกันในการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จได้ คะแนนเสียงและความรับผิดชอบก็คงไปตกอยู่กับสมาชิกวุฒิสภา ในการโหวตเลือกบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งเป็นเอกสิทธิและเป็นหน้าที่ของ ส.ว. ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ส่วนผลคะแนนในส่วน ส.ส.จะมีจำนวนเป็นอย่างไร ก็ต้องรับสภาพ"
จับตาจะเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือ ขั้วที่ 3 ชิงตั้งรัฐบาล?
แต่วิธีนี้ก็สุ่มเสี่ยงอยู่ไม่น้อยที่พลังประชารัฐจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร เพราะไม่แน่ว่าภูมิใจไทยภายใต้การอำนวยการของ เสี่ยหนู อนุทิน จะอยู่ร่วมหัวจมท้ายไปตลอดหรือเปล่า ขนาดเมื่อวานที่ฝุ่นตลบๆ กัน หัวหน้าพรรคที่สนับสนุนนโยบายกัญชาเสรียังออกมาให้ข่าวว่า พรรคตนเองจะสนับสนุนรัฐบาลที่ต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หรือมีเสียงเกิน 250 เสียงเท่านั้น
ซึ่งก็หมายความว่า หากพลังประชารัฐไม่ได้เสียงจากประชาธิปัตย์ที่ตอนนี้มีอยู่ 53 เสียงมาร่วมด้วย ก็ปิดประตูไปได้เลยว่าจะมีเสียงเกินครึ่งในสภาผู้แทนฯ กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปแทน แถมภูมิใจไทยอาจจะไม่ร่วมด้วยไปซะอีกถ้าสถานการณ์ออกมาเป็นแบบนี้ มิหนำซ้ำพรรคขนาดกลางแต่การเดินเกมการเมืองไม่ธรรมดาอย่างชาติไทยพัฒนาก็มี วราวุธ ศิลปอาชา ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าถึงนาทีนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับการตอบสนองในสิ่งที่เสนอไป พร้อมทิ้งท้ายว่ายินดีเป็นฝ่ายกลางในสภาหรือจะเรียกว่าฝ่ายค้านอิสระก็ได้
ดูทรงแล้ว มาแนวนี้คงแปลความได้ว่า ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา ที่รวมกันมีเสียงอยู่ 114 เสียง ตั้งใจจะสื่อสารไปยังพลังประชารัฐว่าถ้าดีลกันไม่ลงตัวก็พร้อมจะรวมกันเป็นขั้วที่ 3 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนซะเลย
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (29 พ.ค.) ฟากฝั่งพลังประชารัฐนำโดย อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวในทำนองว่ากระบวนการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่จบ ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยกับพรรคต่างๆ ซึ่งแม้จะยังไม่ลงตัว แต่ก็เป็นปกติของการที่มีพรรคหลากหลายเข้าร่วม ต้องเอานโยบายของแต่ละพรรคมาพิจารณาร่วมกัน
>> พลังประชารัฐ ลั่นยังดีลประชาธิปัตย์ไม่เสร็จ! ปัดข่าวหวงกระทรวงเกษตรฯ จนเจรจาล่ม
แสดงว่าต่างฝ่ายต่างก็รู้ทันเกมของกันและกัน คนเสพข่าวอย่างเราๆ ก็ต้องตามให้ทันเหมือนกัน เพราะเรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัวพวกเราเลย อย่างน้อยๆ การเลือกตั้งครั้งหน้า เราจะได้มีข้อมูลไว้ตัดสินใจเลือกผู้แทนได้อย่างรู้เท่าทัน!!!