โอละพ่อ ดราม่าล่ามโซ่เด็กวัย 16 ที่แท้คลั่งขาดยา ตายายช่วยบำบัด

เจ้าหน้าที่รุดช่วยเด็กสาววัย 16 ถูกตายายล่ามโซ่เอาไว้ ภาพกลาเป็นประเด็นดราม่า ที่แท้เพราะสาเหตุอาการคลั่งยา ยืนยันกักตัวชั่วคราว เพราะอยู่ช่วงบำบัด-ขาดยาอาละวาด

ความคืบหน้ากรณีที่เพื่อนของเด็กสาววัย 16 ปี ในพื้นที่ ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยัง มูลนิธิปวีณา เพื่อเด็กและสตรี หลังเพื่อนถูกตายายล่ามโซ่เอาไว้ในบ้าน ทำให้มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว และประสานงานไปยังหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม รวมถึงบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือ

ล่าสุด นางอาภาวดี พรหมจอม อายุ 55 ปี รักษาราชการแทน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครพนม พร้อมด้วย นางสาวพัทธ์ธีรา ขุนชะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวนครพนม นางสาวชนารดี เบ้าลี นักจิตวิทยา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจสอบให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

จากการตรวจสอบพบเด็กสาววัย 16 ปี อาศัยอยู่กับตาและยาย คือ นายจอ อายุ 84 ปี และ นางกรี อายุ 90 ปี ขณะที่แม่ของเด็กสาวไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนค่าใช้จ่ายแม่เด็กเป็นคนส่งเสียดูแลมาตลอด

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ทำประวัติ หาทางแนวทางการช่วยเหลือ เบื้องต้นพบว่า เด็กมีปัญหาจากต้นเหตุการณ์ใช้ยาเสพติด ทำให้เกิดปราสาทหลอน ขาดสติ บางครั้งก็อาละวาดโวยวาย ทำร้ายผู้อื่น จึงได้มีการปรึกษาเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องและมีการล่ามโซ่ให้สงบสติอารมณ์เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีเจตนาจะทำร้ายหรือกักขังใดๆ ตามข้อมูลที่แพร่ออกไป

นายธวัช บานอินทร์ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านหนองบาท้าว เปิดเผยว่า เด็กสาววัย 16 ปี ผู้นี้นั้น อาศัยอยู่กับตายาย มาตั้งแต่แบเบาะ เนื่องจากพ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน ผู้เป็นแม่ต้องดิ้นรนไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด และมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว แต่ก็ยังติดต่อและส่งเสียมาโดยตลอด

จนกระทั่งเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เด็กสาวกับเพื่อนเกิดหลงผิด ไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ทำให้เด็กเริ่มมีอาการป่วยทางประสาท บางครั้งก็คลั่งโวยวายขาดสติ ไม่ยอมไปเรียนหนังสือ ทางผู้นำชุมชนท้องถิ่นได้รับทราบถึงปัญหานี้จากผู้ปกครองของเด็กสาวเป็นอย่างดี จึงเข้าไปตรวจสอบดูแล เคยนำตัวไปรักษา ปรึกษาแพทย์ ก่อนจะได้นามารับประทาน

แต่ก่อนนี้อาจเกิดอาการขาดยา และเกิดอาละวาดวุ่นวาย จึงได้แนะนำให้ตายายกักบริเวณเอาไว้ชั่วคราว และหลังจากได้ทานยาไป เด็กสาวก็จะกลับมามีอาการปกติ และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่กลายเป็นประเด็นดราม่าเพราะมีภาพของเด็กสาวเผยแพร่ออกไป โดยผู้เพื่อนนำเรื่องไปร้องเรียน โดยไม่แจ้งข้อเท็จจริง

ล่าสุดเด็กสาวสามารถอาศัยอยู่กับตายายและคนในสังคมได้ปกติแล้ว เชื่อว่าหากได้ทานยาตามแพทย์สั่ง อาการจะหายขาดไป แต่ต้องมีการดูแลเอาใจใส่ ไม่ให้กลับไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดอีก

ทั้งนี้ ครอบครัวยังหวังให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องการเรียนของเด็ก เนื่องจากเป็นห่วงอนาคต รวมถึงทุนการศึกษา เนื่องจากยังมีปัญหารายได้ของครอบครัว หากมีการดูแลที่ดี เชื่อว่าจะมีอนาคตที่ดีและทางชุมชน พร้อมที่จะดูแลสุดความสามารถ