เปิดใจเด็กสาววัย 16 ถูกตายายล่ามโซ่ขังในบ้าน ยอมรับตัวเองชอบหนีเที่ยวจริงๆ

เปิดใจเด็กสาววัย 16 ถูกตายายล่ามโซ่ขังในบ้าน ยอมรับตัวเองชอบหนีเที่ยวจริงๆ

เปิดใจเด็กสาววัย 16 ถูกตายายล่ามโซ่ขังในบ้าน ยอมรับตัวเองชอบหนีเที่ยวจริงๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณีที่เพื่อนของเด็กสาววัย 16 ปี ในพื้นที่ ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยัง มูลนิธิปวีณา เพื่อเด็กและสตรี หลังเพื่อนถูกตายายล่ามโซ่เอาไว้ในบ้าน ทำให้มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว และประสานงานไปยังหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม รวมถึงบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือ

>> โอละพ่อ ดราม่าล่ามโซ่เด็กวัย 16 ที่แท้คลั่งขาดยา ตายายช่วยบำบัด

ล่าสุด ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปถึงที่บ้านดังกล่าว พบน.ส.โบว์ อยู่ในห้องนอนกำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ โดยที่ขาข้างซ้ายมีโซ่ล่ามไว้กับขาเตียง ตามร่างกายไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย จึงได้ขอให้คนในบ้านช่วยกันเอาโซ่ออกจากขาน.ส.โบว์เสียก่อน สอบถาม คุณตา อายุ 84 ปี และ คุณยาย อายุ 90 ปี ที่เป็นผู้ปกครองดูแล น.ส.โบว์ เล่าว่า น.ส.โบว์เป็นลูกคนเดียวพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก ตายายจึงดูแลมาตลอดโดยมีญาติที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงคอยให้ความช่วยเหลือ ตอนเด็กๆ น.ส.โบว์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย เชื่อฟังผู้ใหญ่ ร่าเริงแจ่มใส แต่พอเป็นวัยรุ่นเปลี่ยนไปติดเพื่อนและคบเพื่อนชายหลายคน อารมณ์รุนแรง เคยทำร้ายตัวเอง เสพยาเสพติด หนีออกจากบ้าน และเลิกเรียนกลางคันตอนอยู่ ม.2

“หลังติดตามหลานกลับมาได้ก็พาไปรักษาด้านจิตเวช ตั้งแต่เดือน ก.พ.62 ปัจจุบันยังกินยาและอยู่ในกระบวนการบำบัดรักษา อารมณ์จะขึ้นๆ ลงๆ ที่จำเป็นต้องล่ามโซ่หลานเพราะกลัวว่าจะหนีออกจากบ้านไปเป็นอันตราย เมื่อหลานอารมณ์เย็นลงก็จะปล่อยเป็นอิสระ โดยการควบคุมดูแลได้ปรึกษาแพทย์อยู่ตลอด และถึงจะล่ามโซ่ไว้แต่หลานก็มีโทรศัพท์มือถือใช้อยู่ตลอดเวลา” ตาของน.ส.โบว์ กล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น โดยน.ส.โบว์ ยอมรับว่าตัวเองชอบหนีเที่ยวจริง และที่ติดต่อเพื่อนขอความช่วยเหลือเพราะไม่อยากอยู่บ้าน เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังรักตายายเหมือนเดิม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญตายายและญาติทุกคน พร้อมทั้งน.ส.โบว์ มาประชุมร่วมกันเพื่อหาวิธีการปรับพฤติกรรมของน.ส.โบว์ ซึ่งทางญาติก็จะไม่มีการล่ามโซน.ส.โบว์อีก โดยทุกคนจะร่วมกันดูแลน.ส.โบว์ อย่างใกล้ชิด และฝ่ายปกครองในชุมชนจะช่วยสอดส่องพฤติกรรมและเฝ้าระวังความปลอดภัยช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ จะได้ติดตามความคืบหน้าต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook