“ต่าย สายธาร” เจ็บมาเยอะ เปิดใจรัก “จอห์น รัชตะ” ไม่คาดหวัง ไม่ขอยุ่งดราม่าขายเพลง
หายหน้าหายตาไปอยู่นานเหมือนกัน สำหรับนักแสดงสาว ต่าย-สายธาร นิยมการณ์ ที่ล่าสุดมีโอกาสได้เจอเจ้าตัวในงานบวงสรวงภาพยนตร์ Who? Why? Where? จึงได้เข้าไปอัปเดตถึงเรื่องราวในชีวิต
ซึ่ง ต่าย สายธาร ได้เล่าให้ฟังว่า เธอไม่ได้หายไปไหนจากวงการบันเทิง มีละครบ้าง เพียงแค่ผู้จัดบางท่านอาจไม่รู้ว่าเธอยังคงรับงานอยู่ จึงทำให้ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่ พร้อมเผยเรื่องความรักกับนักร้องหนุ่ม จอห์น รัชตะ ยังเรื่อยๆ ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะเจ็บมาเยอะ ส่วนเรื่องของคดีความฝ่ายชายนั้น เธอไม่ขอยุ่ง ขอให้กำลังใจและไม่ซ้ำเติมก็พอ
ห่างหายจากงานหนังไปนานขนาดไหน ?
"จริงๆ ภาพยนตร์รับเชิญล่าสุดคือ 400 นักรบขุนรองปลัดชูค่ะ แต่พอดีวันที่แกรนด์โอเพนนิ่งมันตรงกับวันที่มีเคสที่เด็กติดถ้ำหลวง ก็เสียดายเนอะช่วงนั้น แต่เราก็ต้องไปทำหน้าที่ก่อน"
เหมือนหายหน้าหายตา ?
"ก็เขาคิดว่าไม่ได้รับงาน (หัวเราะ) แต่เราก็รับงานอยู่นะคะ ก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ และก็มีไปทำสินค้า และเป็นวิทยากรตามสถานที่ราชการต่างๆ ไม่ได้ออกสื่อ และหลายคนก็คิดว่าบทแม่คงไม่รับ รับนะคะ บทยายก็รับค่ะ (หัวเราะ) แต่เมื่อปีสองปีที่ผ่านมาก็มีละครเรื่องสาปดอกสร้อย และมี Princess Hours ก็จะมีติดๆ กันเลย ก็เลยรู้สึกว่าเราแก่เกินไปที่จะรับอะไรหลายๆ เรื่องพร้อมกันแบบนี้หรือเปล่า เพราะรู้สึกว่าร่างกายเราไม่ค่อยไหว เพราะช่วงนั้นมีแต่ละครผี และต่ายรับ 3 เรื่อง คือเงินก็อยากได้นะ แต่ต่ายก็อยากทำงานให้มีคุณภาพ ไม่ต้องไปป่วยในกองถ่าย ให้เป็นภาระของกอง อยากทำงานให้เป็นมืออาชีพ"
ลิมิตปีละเรื่องหรือเปล่า ?
"อุ้ย หลายๆ เรื่องก็ได้ (หัวเราะ) ก็ดูความเหมาะสมเรื่องบท และอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าลงตัวก็รับเพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่คนที่ฟิกซ์กับเรื่องบทอะไรเท่าไหร่ แต่บทที่ขอไว้เลยคือเซ็กซี่ คือเราก็ต้องคำนึงเรื่องความเหมาะสม โอเคว่านักแสดงเล่นได้ทุกบทแต่ด้วยตัวต่ายเองที่เป็นกู้ชีพด้วย บางทีเราไปสอนเด็ก เราเข้าใจว่าการแสดงคือการแสดง แต่คนเราไม่ได้เข้าใจเหมือนเราทั้งหมด อะไรที่เลี่ยงได้ก็เลี่ยง อะไรที่รับได้ก็รับ"
เพราะทุ่มให้กับมูลนิธิหรือเปล่า ?
"คือจริงๆ แล้ว ต่ายก็มีธุรกิจส่วนตัว อย่างตอนนี้ก็มีน้ำแร่ยี่ห้ออีส อาจจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และก็มีงานเบื้องหลังที่ทำ แต่ก็ไม่ได้ออกสื่อ ก็ไม่รู้จะออกอะไร เราก็อยากดูเด็กใหม่ๆ อยู่ในวงการบ้างดีกว่า"
ถามถึงเรื่องคดีของจอห์น กรณีเรื่องเอาเพลงไปขาย ?
“อันนี้ไม่เกี่ยวค่ะ อันนั้นเป็นเรื่องของเขาที่เขาต้องเคลียร์ ต่ายก็อยู่ในส่วนของตัวเองค่ะ ได้คุยกันนะคะ ก็มีให้กำลังใจ แต่ว่าเราโตแล้ว เราก็เคารพสิทธิ์ในการตัดสินใจ ในการที่เขาจะต้องออกมาพิสูจน์หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นก็น่าจะต้องเป็นเรื่องของเขามากกว่า”
เขาเครียดหรือกังวลไหม ?
“ต้องไปถามเขาค่ะ”
เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับเราไหม ?
“จริงๆ ถามว่าส่งผลกระทบกับต่ายไหม ต่ายคิดว่าทุกคนน่าจะแยกแยะได้นะคะ ว่าต่ายทำงานอะไร ต่ายทำอะไร ทุกวันนี้ทำอะไร ไม่ได้เอาเรื่องส่วนตัวหรืออะไรมาระบายหน้าเฟซบุ๊กเหมือนเด็กๆ บางทีก็มีบางอารมณ์ขอพื้นที่ตัวเองบ้าง แต่ส่วนมากไม่ค่อยมีหรอก ส่วนมากหน้าเฟซบุ๊กจะเป็นรายงานข่าว เรื่องของสังคม ส่วนหน้าเฟซบุ๊กของต่ายเองก็แล้วแต่อารมณ์ค่ะ แต่ก็พยายามที่จะเลี่ยงอะไรที่มันเป็นการปะทะ หรือเป็นคำหยาบ หรือไปแซะ กระแนะกระแหนใคร เวลาที่เราทำแล้วมันไม่ได้ดูว่าคนอื่นเขาดูไม่ดี แต่ตัวเรานี่แหละที่ดูแย่ เหมือนเวลาเราไปเล่าเรื่องใครให้คนอื่นฟัง ว่าคนนี้ไม่ดีนะ คนนั้นไม่ดีนะ เขาไม่ได้มองคนอื่นหรอก เขามองคนพูดนี่แหละ”
อย่างทางกฎหมายจะต้องเข้าไปเคลียร์หรืออะไรไหม ?
“ไม่ใช่ทนายค่ะ (หัวเราะ) ไม่ทราบเลยค่ะ อันนี้ต่ายคงพูดไม่ได้ ต้องขอจริงๆ เพราะว่าเป็นเรื่องของกฎหมายและตรงนี้ถ้าต่ายพูดอะไรไปแล้วมันส่งผลเสีย ต้องขอบคุณที่เข้าใจนะคะ”
ความสัมพันธ์แฮปปี้ดี ?
“ก็เรื่อยๆ ค่ะ เราโตแล้ว ถามว่าคาดหวังไหม มันก็ไม่ได้คาดหวัง มันก็เจอมาเยอะ เจ็บมาเยอะ ก็เรื่อยๆ ดีกว่า เป็นเพื่อนกันก็ได้ อะไรก็ได้ค่ะ แต่ว่าเวลาที่คนล้มหรืออะไรก็แล้วแต่ ต่ายไม่เคยมีนิสัยที่จะไปซ้ำหรือข้ามใคร”
เขาจะออกมาพูดเองไหม ?
“อันนั้นต้องถามเขาค่ะ เพราะว่าบางทีต่ายเองเป็นคนสนิท บางครั้งก็ไม่ได้ถาม ถ้าเขาอยากจะเล่าก็ให้เขาเล่า เพราะว่าบางทีบางเรื่องก็ต้องใจเขาใจเรานะคะ ถ้าเขาอยากปรึกษา เขาก็คงจะมาพูดเอง”
ตอนทราบข่าวตกใจไหม ?
“ไม่ค่ะ มันเป็นเรื่องราวที่อาจจะเข้าใจผิด ต่ายไม่ได้เข้าข้างใครทั้ง 2 ฝ่าย เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องของกฎหมายที่จะต้องพิสูจน์นะคะ ให้กระบวนการยุติธรรมเขาทำหน้าที่ของเขา และให้เวลาได้ทำหน้าที่ของเขาดีกว่า”
เราให้กำลังใจเขาอย่างไรบ้าง ?
“ก็ให้ปกติ คือคนเราถ้าพูดความจริง จะพูดร้อยครั้ง พันครั้ง มันก็เหมือนเดิมค่ะ ถ้าเราพูดโกหก พูดกี่ครั้งมันก็ไม่เหมือนเดิม มันเป็นเรื่องธรรมดานะ ไม่ได้มาแอ๊บหรืออะไร กำลังใจก็ให้อยู่แล้วค่ะ แต่ว่าถ้าคนรอบข้างเราไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ อย่างต่ายมีลูกบุญธรรมก็สอนลูกอยู่แล้ว ถ้าเขาทำอะไรผิดก็ไม่เข้าข้างอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าลูกฉันเป็นคนดี แฟนฉันเป็นคนดี ก็ไม่ใช่นิสัยเราอยู่แล้วค่ะ”
>>"ช.เอ ณ บางช้าง" แจ้งความ "จอห์น รัชตะ" หลอกขายเพลงละครช่องดัง
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ