เผยเรื่องขนลุก วิญญาณเด็ก 6 ขวบ ถูกขโมยเจาะกะโหลก ปรากฏตัวให้น้องสาวเห็น
จากกรณีศพของ น้องเก้า อายุ 6 ปี 9 เดือน หลานชาย ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ เมื่อเดือนมกราคม 2562 ก่อนจะนำศพไปบรรจุไว้ในเบ้าปูนข้างเมรุวัดส่งเสริมธรรม ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อรอให้ครบ 1 ปี ตามประเพณีอีสาน และรอแม่ที่อยู่ในเรือนจำพ้นโทษออกมาในเดือนสิงหาคมนี้ จึงจะทำพิธีฌาปนกิจ แต่มาถูกคนร้ายทุบเบ้าเจาะกะโหลกหน้าผาก เชื่อเป็นแก๊งคุณไสยมนต์ดำ เอาไปทำปั้นเหน่ง โดยวานนี้ทาง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ลงพื้นที่ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เก็บหลักฐานวัตถุพยานต่างๆ ที่กุฏิพระลูกวัดที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุดไปแล้ว
>> วิญญาณเด็ก 6 ขวบเข้าฝันเจ้าอาวาส ก่อนพบศพถูกแก๊งจอมขมังเวทย์เจาะหน้าผาก
ถึงความคืบหน้า (3 มิ.ย.62) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี ได้เดินทางไปยังบ้าน หมู่10 บ้านปันน้ำใจ ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี พบ นางสมหมาย อายุ 62 ปี ยายทวดของน้องเก้า ที่เป็นผู้เลี้ยงดูและดูแลน้องเก้า ก่อนตกน้ำเสียชีวิต เพราะแม่ติดคุกคดีจำหน่ายยาเสพติด
โดยนางสมหมาย ได้นำรูปน้องเก้าออกมาตั้งที่แคร่ข้างบ้าน พร้อมทำการจุดธูปไหว้หน้ารูปภาพน้องเก้า อธิษฐานบอกกล่าวน้องเก้า ให้ดลบันดาลให้ทางตำรวจสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายที่ขโมยชิ้นส่วนศพกะโหลกหน้าผากน้องเก้า เพื่อที่จะได้ทำพิธีฌาปนกิจร่างของน้องเก้า ให้มีร่างกายครบ 32 ประการ
จากนั้น นายสมชาย ตาของน้องเก้า ได้อุ้มน้องปลากิม อายุ 4 ขวบ น้องสาวของน้องเก้า นำไปชี้ที่สระน้ำท้ายหมู่บ้านที่น้องเก้าตกลงไปเสียชีวิต ที่อยู่ห่างจากบ้านน้องเก้าประมาณ 800 เมตร เมื่อไปถึงสระน้ำ น้องปลากิมได้ชี้ ร้องไห้บอกเบาๆ ว่า “พี่เก้าอยู่ที่นี่” และ “พี่เก้าเสื้อเปียก” และบอกให้พี่กลับบ้าน ซึ่งจากนั้น นายสมชาย ได้จุดธูปต่อหน้ารูปบอกน้องเก้า ดลบันดาลให้ตำรวจสืบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้
นางสมหมาย เปิดเผยว่า ก่อนทราบว่าเบ้าบรรจุร่างน้องเก้าถูกทุบเจาะกะโหลกหน้าผาก ตนฝันว่า น้องเก้ามาหา บอกว่าหนาว น้องเก้าอยู่กับคนแก่ อยู่กันหลายคน แต่ไม่มีเสื้อผ้าใส่ เมื่อไปดูที่เบ้าก็พบว่าผ้าห่มน้องเก้าถูกนำมาวางไว้บนเบ้า กระเป๋าเสื้อผ้าถูกนำออกมาทิ้งไว้ใกล้ศาลาพักศพ และเมื่อคืนนี้ น.ส.อุไรรัตน์ ยายน้องเก้า ได้ปรึกษาญาติเกี่ยวกับการชันสูตรศพน้องเก้า เพราะมีแต่ญาติเท่านั้นที่เห็นว่าศพน้องเก้าถูกเจาะกะโหลกหน้าผาก ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้โปกปูนปิดเบ้า แล้วไปแจ้งตำรวจ ทำให้ตำรวจไม่เห็นสภาพศพน้องเก้า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และให้ตำรวจเก็บหลักฐาน จึงได้ตกลงว่าอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุบเบ้าบรรจุศพน้องเก้าได้
ถ้าตำรวจจับคนร้ายที่ลักเจาะกะโหลกหน้าผากน้องเก้าได้ และได้กะโหลกหน้าผากคืน ก็จะรออีก 2 เดือนให้แม่น้องเก้าพ้นโทษออกมา และทำพิธีฌาปนกิจศพน้องเก้า ให้ไปผุดไปเกิด แต่ถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้ ก็ต้องรอ เพราะเกรงว่าน้องเก้าจะถูกสะกดวิญญาณ ไปไหนไม่ได้ ทำให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด หลานคงจะทรมาน เพราะ น้องปลากิม อายุ 4 ขวบ น้องสาวต่างบิดาของน้องเก้า มักจะบอกว่าพี่เก้าอยู่ที่สระน้ำ เพราะวันใดที่ยายและตาพาไปขี่รถจักรยานยนต์ขับผ่านบริเวณสระน้ำท้ายหมู่บ้าน ที่น้องเก้าจมน้ำเสียชีวิต น้องปลากิม จะร้องขึ้นว่า “พี่เก้ากลับบ้าน มานั่งทำไมอยู่แถวนี้ กลับบ้านๆ “
พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ให้ทางตำรวจชุดสอบสวนและชุดสืบสวนทุกชุด เร่งทำงานทั้งการสืบสวนและสอบสวน เพื่อหาหลักฐานเบาะแสตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ ซึ่งคงต้องใช้เวลาบ้าง เนื่องจากจุดเกิดเหตุห่างไกลผู้คน ที่ไม่มีผู้คนเข้าไปเท่าไหร่ เพราะอยู่ใกล้กับเมรุเผาศพ และคงต้องรอหลักฐานจากทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ที่ลงพื้นที่เป็นวัตถุพยานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ และใกล้เคียงด้วย ซึ่งวันพรุ่งนี้จะเรียกตำรวจที่ทำงานในคดีนี้ทุกชุด ร่วมประชุมสรุปข้อมูลต่างๆ ที่ออกทำงานแล้วได้มา เพื่อดูแนวทางในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุครั้งนี้
ส่วนเรื่องการจะเปิดเบ้าปูนเก็บศพน้องเก้าอีกครั้ง เพื่อที่จะหาหลักฐานเพิ่ม และทางญาติของน้องเก้าอนุญาตให้เปิดเบ้าได้ เพื่อที่จะได้หลักฐานหาตัวคนร้าย เรื่องนี้คงต้องดูก่อนว่า การลงพื้นที่ทำงานของตำรวจที่ผ่านมา มีความคืบหน้าอะไรบ้าง จำเป็นหรือไม่ ที่จะต้องไปเปิดเบ้าเก็บศพอีกครั้ง แต่ตอนนี้เรายังไม่ต้องการจะเปิดเบ้าเก็บศพอีกครั้ง เพราะรู้ถึงความรู้สึกของญาติของน้องเก้า แต่หากจำเป็นที่ต้องหาหลักฐานเพิ่มจากศพ หากจะเปิดเบ้าเก็บศพ ก็จะแจ้งใหให้ญาติของศพน้องเก้าทราบ และมาร่วมดูการทำงานช่วงที่ตำรวจจะเปิดเบ้าเก็บศพดังกล่าว