วิจารณ์สนั่น "ครู" ตบบ้องหูลงโทษนักเรียนไม่ทำการบ้าน แม่เผยลูกเป็นเด็ก LD (คลิป)
วันนี้(3 มิ.ย.62) โรงเรียนบ้านสว่างโนนแดง ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ หลังจาก โลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก ถึงคลิปครูผู้ชายตบบ้องหูนักเรียนชายหน้าห้องเรียน โดยในคลิปครูกำลังต่อว่านักเรียนชายที่ยืนก้มหน้าอยู่ และเดินไปดึงหู นักเรียนไม่มีท่าทีจะต่อสู้ หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป ปรากฎมีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก ถึงความเหมาะสมและไม่เหมาะสมในการทำโทษ ขณะที่ครูที่อยู่ในคลิป คือ นายกาหลง เป็นครูสอนภาษาไทย ส่วนเด็กในคลิปเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ พบว่าภายในโรงเรียนกำลังมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีนายวันชัย คำพาวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาสุรินทร์ (รอง ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต1) เขต รักษาราชกรแทน ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 1 มาประชุมร่วมกับนายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียน ร่วมกับคณะครูอาจารย์ และนายการหลง ครูที่อยู่ในคลิปใช้มือตบศีรษะและใบหูเด็กนักเรียน
หลังจากประชุมแล้ว นายวันชัย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และวันนี้ได้เรียกประชุม ผอ.โรงเรียน และครูอาจารย์ และครูที่ก่อเหตุ มาประชุมชี้แจงและชักถามปัญหาที่ขึ้นกับทางโรงเรียน ให้ ผอ.โรงเรียน ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.62) โดยให้เป็นไปตามระเบียบราชการและตามกฎหมาย และกำชับกับทางครู ในการเรียนการสอน ในเรื่องระเบียบต่างๆ ซึ่งในการประชุมแต่ละครั้ง เราก็ได้กำชับให้ทาง ผอ.โรงเรียนทุกแห่ง ได้ระมัดระวังในการลงโทษเด็ก
ขณะที่ นายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียน ระบุว่าครูกาหลง จริงๆ เป็นครูสอนภาษามีความสามารถในการสอนภาษาไทย มีความมุ่งมั่น ตั้งเป้าหมายไว้สูงมาก หากเด็กไม่ทำการบ้านไม่ส่งงานตามเป้าหมายก็จะเข้มงวด ก็จะว่ากล่าวและติดตาม สิ่งที่เกิดขึ้นโรงเรียนไม่ปฎิเสธความรับผิดชอบ ทางโรงเรียนเองก็ได้กำชับครูในการสอนมาอย่างตลอด ให้ครูบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ทำอย่างไรให้เด็กนักเรียนรักครู ครูรักเด็กนักเรียน ทางโรงเรียนเสียใจ แม้เราจะได้พูดคุยกันแล้วแต่มาเกิดขึ้นอีก
ขณะที่นางกานดา ผู้ปกครองของเด็ก ที่ถูกครูลงโทษใช้มือตบศีรษะ ระบุว่า ลูกตนเองเป็นเด็ก LD หรือ เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ อ่านช้าคิดช้า ครูต้องทำใจอย่าไปเร่งให้เด็กเรียนรู้เร็วเหมือนเด็กเก่ง เสียใจที่ครูลงโทษเด็กแบบนี้ แม่เองก็ยังไม่เคยทำกับลูก ถ้าครูคนนี้จะอยู่หรือจะไป อย่างไรก็ต้องปรับตัวเอง ครูจะทำโทษทำได้ ตีไม้ตีมือ แต่จะทำรุนแรงกับเด็กไม่ได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ อีกอย่างเขาเป็นเด็กแอลดี เรียนช้ากว่าคนอื่น เดี่ยวนี้กลายเป็นว่าวิชาภาษาไทยครูกาหลง เด็กๆ ก็ไม่อยากเข้าเรียน ถ้าครูจะอยู่สอนต่อก็ต้องปรับตัวเอง ไม่ลงโทษเด็กแบบนี้
ขณะที่ผู้ปกครองหลายคนระบุว่า ครูกาหลง มีพฤติการณ์ เข้มงวดและลงโทษเด็กในลักษณะนี้ มาอย่างต่อเนื่อง และเคยมีการร้องเรียนกับทางโรงเรียน ไปก่อนหน้านี้แล้ว โรงเรียนก็ตักเตือนไปแล้วก็ยังกระทำอีก ทำให้ผู้ปกครองหลายคน ต้องย้ายลูกหลานตนเองไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ส่วนวันพรุ่งนี้ นายเริงศักดิ์ หาญมานพ ผอ.โรงเรียน จะได้เรียกประชุมผู้ปกครอง พร้อมด้วย ครูกาหลง และครูอาจารย์ ในโรงเรียน เพื่อหาข้อสรุปแก้ไขปัญหาร่วมกัน สำหรับเด็กที่ถูกครูกาหลง ลงโทษ มีถึง 11 คน มีทั้งเด็กแอลดี และเด็กนักเรียนที่มีสติปัญญาปกติ
ส่วนเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ถูกครูกาหลงลงโทษ ด้วยการใช้ฝ่ามือตบที่ศีรษะและใบหู บอกกับผู้สื่อข่าว ตนเองไม่ได้ส่งการบ้านภาษาไทยจริง เป็นใบงาน ที่คุณครูให้มาทำที่บ้าน เมื่อช่วงวันเป็นเทอมใหม่ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ไม่ได้ส่งใบงานวิชาภาษาไทย และติดปัญหาเรื่องอ่านหนังสือไม่ได้ทั้งหมด ด้วย