เปิดคลิปผัวเก่าหึงโหด บุกยิงถล่มร้านเมียเก่า-เลขานายก อบต.แกล้งตายเลยรอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 มิ.ย.) ที่ จ.สุพรรณบุรี เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงที่ร้านขนม ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.ศรีประจันต์ ริมถนนสายชัยนาท-สุพรรณบุรี ขาเข้าสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุเดิมเป็นร้านขายขนม กาแฟ เครื่องดื่ม พบ น.ส.กฤษดาพร อายุ 39 ปี และ นายบุญส่ง อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ยืนหน้าซีดด้วยความหวาดกลัวรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่หน้าร้าน

จากนั้นผู้เสียหายได้พาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในร้ายพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกกระจายเกลื่อนทั้งในร้าน พื้นถนนหน้าร้าน และในกระบะท้ายรถอีซูซุ สีบรอนซ์ ซึ่งบรรทุกข้าวของเครื่องครัวคาอยู่อีก 1 ปลอก รวม 7 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ ที่ข้างฝายังมีรอยถูกคมกระสุนปืนเจาะเป็นรูอีก 3 รู ที่หน้าร้านพบรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ จอดอยู่มีรอยถูกยิงเข้าที่กระจกท้ายข้างขวาและประตูหลังด้านขวา รวม 2 รู

น.ส.กฤษดาพร อายุ 39 ปี และ นายบุญส่ง อายุ 43 ปี ผู้เสียหาย

จากการสอบสวน น.ส.กฤษดาพร ให้การว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นอดีตสามีเก่า ซึ่งมีลูกด้วยกัน 2 คน เมื่อก่อนเคยร่วมกันทำมาหากินค้าขายสินค้าโอทอป แต่ระยะหลังสามีเก่าไม่ช่วยทำงานใช้แต่เงิน และมักทะเลาะมีปากเสียงกันประจำ จนตนทนไม่ไหวจึงขอเลิกกันแต่ไม่เป็นทางการ หลังเลิกกันสามีเก่ามักตามมาราวีอยู่ตลอด

กระทั่งเมื่อประมาณ 1 เดือนเศษ ตนจึงตัดสินใจเลิกอย่างเด็ดขาดโดยเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพักว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก แต่สามีเก่าก็ยังไม่ยอมเลิกยังตามข่มขู่และขู่ฆ่าตนและลูกชาย ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่โรงพักอีกรอบ

ต่อมาได้พบกับนายบุญส่ง และคบหากันเป็นคนรู้ใจได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ทำให้สามีเก่าทราบเรื่องยิ่งไม่ยอมเลิกราตามราวีเรื่อยมา กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนได้ชวนนายบุญส่ง แฟนใหม่ ไปช่วยขนข้าวของเครื่องใช้ในครัวเนื่องจากตนได้ไปเหมาซื้อของไว้ที่ อ.บางใหญ่ เพื่อนำมาใช้เปิดร้านขายอาหาร ซึ่งตนได้เช่าไว้แต่มาเกิดเหตุขึ้น

นายบุญส่ง เลขานายก อบต.วังน้ำเย็น

ด้าน นายบุญส่ง เลขานุการนายก อบต.วังน้ำเย็น และประกอบอาชีพเลี้ยงไก่ชนขาย กล่าวว่า ตนคบหากับ น.ส.กฤษดาพร ได้ประมาณ 1 เดือนเศษ เคยเห็นสามีเก่าที่เลิกกันแล้วอยู่ไม่กี่ครั้งแต่ไม่เคยคุยกัน ไม่คิดว่าเขาจะหมายเอาชีวิตตน เนื่องจากฝ่ายหญิงเขาไม่เอาแล้ว กระทั่งก่อนเกิดเหตุฝ่ายหญิงได้โทรศัพท์ให้ตนมาช่วยขนของเข้าร้าน ที่เตรียมจะเปิดขายอาหารป่าที่ร้านเกิดเหตุ

ขณะที่ตนและญาติๆ อีก 2 คนกำลังช่วยกันขนข้าวของเครื่องครัวเตาแก๊ส และแอร์เข้าไปในร้าน ส่วนตนกำลังเดินออกมาเพื่อจะยกของในกระบะรถซึ่งจอดอยู่ที่หน้าร้าน และติดถนนมีรถยนต์และผู้คนพลุกพล่าน

ทันใดนั้นมีคนร้ายซึ่งตนจำได้ว่าเป็นสามีเก่า ได้ขับรถกระบะมาด้วยความเร็วแล้วจอดหน้าร้าน จากนั้นคนร้ายได้เปิดประตูรถชักอาวุธปืนขึ้นมาหันปากกระบอกปืนมาที่ตนพร้อมลั่นไกทันที เคราะห์ดีที่ตนไหวตัวก่อนจึงหลบคมกระสุนได้ทัน

ก่อนจะวิ่งหนีตายเข้าไปในร้านและหนีเข้าไปในโรงกลึงข้างร้าน แต่คนร้ายไม่ยอมละความพยายามและไม่เกรงกลัวกฎหมาย วิ่งตามเข้าไปใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ตนอีกหลายนัด เมื่อตนไม่มีทางหนีจึงแกล้งล้มลงและแกล้งตาย

คนร้ายเห็นตนนอนนิ่งกับพื้นจึงยืนดูผลงานและคิดว่าเหยื่อกระสุนเสียชีวิตแล้ว จึงวิ่งกลับออกไปหน้าร้านก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่รถฟอร์จูนเนอร์ของตน ที่จอดไว้หน้าร้านอีก 2 นัด ก่อนเร่งเครื่องหลบหนี

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ตนรอดตายเชื่อว่าเป็นเพราะตนแขวนพระหลวงพ่อกวย ชุตินธโร เนื้องาแกะ อดีตเจ้า อาวาสวัดโฆสิตาราม (วัดบ้านแค) ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมรุ่นเก่าอีกรูปหนึ่งที่ช่วยชีวิตของเอาไว้

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง พบคนร้ายขับรถกระบะตอนเดียวเข้ามาจอดและลงจากรถถือปืนยิงใส่ผู้เสียหายตั้งแต่หน้าร้าน และไล่ตามเข้าไปยิงถึงในร้าน ก่อนจะรีบกลับไปขึ้นรถขับหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.สามชุก 

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไล่ติดตามไปยังสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่าคนร้ายจะหนีไปกบดาน พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต คาดว่าสามารถจับตัวมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้า