อนาคตใหม่ไร้งูเห่า! ช่อ พรรณิการ์ ลาก ส.ส. แฉประสบการณ์ซื้อตัวแลกโหวต

อนาคตใหม่ไร้งูเห่า! ช่อ พรรณิการ์ ลาก ส.ส. แฉประสบการณ์ซื้อตัวแลกโหวต

อนาคตใหม่ไร้งูเห่า! ช่อ พรรณิการ์ ลาก ส.ส. แฉประสบการณ์ซื้อตัวแลกโหวต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาวพรรณิการ์ วานิช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ นำทีมแถลงข่าวเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (4 มิ.ย.) โดยนำ ส.ส. คนอื่นในพรรคมาร่วมบอกเล่าประสบการณ์การโดนซื้อตัวให้แปรพักตร์เพื่อโหวตให้กับฝั่งตรงข้าม หรือ การเป็นงูเห่า

นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส. จ.ปทุมธานี อ้างว่า ตนได้รับการติดต่อซื้อตัวถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกตนได้รับข้อเสนอ 30 ล้านบาท แบ่งจ่าย 2 งวด งวดแรก 25 ล้านบาท และให้อีก 5 ล้านบาทหลังการเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนครั้งที่ 2 ได้รับข้อเสนอเป็นวงเงิน 60 ล้านบาท แต่ตนได้รับเงินเพียง 50 ล้านบาท ส่วนอีก 10 ล้านบาท ผู้เสนอขอหักเป็นส่วนแบ่งเข้าตัวเอง

ประชาธิปไตยมีค่ามากกว่า 120 ล้านบาท

คนต่อมาที่มาเปิดเผยประสบการณ์การโดนทาบทามซื้อตัวให้เป็นงูเห่า คือ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพมหานคร ของพรรค อ้างว่า ตนได้รับข้อเสนอถึง 4 ครั้ง ผ่านการติดต่อจากคนรู้จัก เป็นเงิน 30 ล้านบาท แต่ตนปฏิเสธ จึงเสนอให้อีกเป็น 50 ล้านบาท 70 ล้านบาท และสัปดาห์ที่แล้วได้ถึง 120 ล้านบาท แต่ตนเลือกที่จะไม่รับเพราะเห็นว่าความไว้ใจของประชาชนมีค่ามากกว่า

"การที่เรามาอยู่ตรงนี้เป็นผู้แทนประชาชน เราแบกความหวังไว้ของคนทั้งหลายใช่มั้ยครับ มูลค่าของประชาธิปไตยมันราคาเท่าไหร่ ผมก็ถามกับตัวเองนะครับ แล้วผมก็ฝากไปยังคนที่พยายามชักชวนนะครับว่า ประชาธิปไตยเนี่ยมันประเมินค่าไม่ได้นะครับ ความไว้ใจของพ่อแม่พี่น้องเนี่ย มันราคาสูงกว่า 120 (ล้าน) แน่นอนครับ" นายเท่าพิภพ กล่าว

4 สเต็ปตอแยซื้องูเห่า

นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส. จ.ขอนแก่น เล่าว่า ตนโดนสกัดตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ เพราะตนเคยสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา และได้รับคะแนนกว่า 20,000 คะแนน และเรียกร้องให้ตนส่งประวัติไปให้ และ "ผู้ใหญ่" จะผลักดันให้เป็นนักการเมือง 

ส.ส. รายนี้ บอกต่อไปว่า หลังจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา มีคนโทรเข้ามาอ้างว่า "ผู้ใหญ่" ระดับรองหัวหน้าพรรค จะขอพบ แต่ตนปฏิเสธเพราะ กกต. ยังไม่รับรองผล และพรรคก็ห้ามให้สัมภาษณ์

ยังไม่จบเท่านั้น นายฐิตินันท์ บอกอีกว่า มีผู้ติดต่อเข้ามาอีก บอกว่า อยากได้ "เงินนอกบัญชี 9 หลัก" ใช้หรือไม่ ตนบอกว่าอยากแต่หาได้เอง

เมื่อไม่นานมานี้ ตนอ้างว่า ได้รับการเสนอเงิน 5 ล้านบาทก่อนเลือกนายกรัฐมนตรี และหลังวันโหวตจะได้รับอีก 70 ล้านบาท พร้อมเงินเดือน เดือนละประมาณ 200,000 บาท

"ท่านครับ ผมฐิตินันท์ แสงนาค มายืนตรงนี้ในวันนี้ได้ด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า แกร่งกล้ามั่น ถ้าคนขอนแก่นเขารู้จักผม เขาจะรู้ดีครับไม่มีใครกล้ามาตอแยกับผมเรื่องอย่างนี้ สู้เพื่อประชาธิปไตยมาตั้งแต่เด็กครับ ที่เข้าพรรคอนาคตใหม่เพราะว่าอุดมการณ์ตรงกันในเรื่องประชาธิปไตย ผมรักพรรคอนาคตใหม่ครับ ผมรักหัวหน้าพรรค รักเลขาธิการพรรค รักโฆษกพรรค รักกรรมการบริหารพรรคทุกคน เหนือสิ่งอื่นใด ผมรักประชาชนที่เลือกผมมาเกือบ 40,000 คะแนนครับ" นายฐิตินันท์ กล่าว 

ลั่นจะสู้เพื่อประชาชน

นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส. จ.สมุทรสาคร อ้างว่า มีคนติดต่อมาหาตนตลอด เริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท และขยับเป็น 50 ล้านบาท และเมื่อไม่กี่วันมานี้ เพิ่มมาอยู่ที่ 75 ล้าน แต่ตนรับเงินก้อนนี้ไม่ได้ เพราะตนเป็นนักสู้ด้วยเสียงของประชาชน การเสนอเงินดังกล่าวถือว่าเป็นการดูถูกประชาชน

"หวังว่าเราจะเปลี่ยนใจไปสนับสนุนเผด็จการหรือ สนับสนุนคนที่ไม่มีทางที่จะสู้ในแนวทางประชาธิปไตยได้อย่างพวกเราได้ ดูถูกจิตใจของคนจนๆ อย่างพวกเรามาก ว่าเงินจะซื้อพวกเราได้" 

นายทองแดง กล่าวทิ้งท้ายว่า "ชาวสมุทรสาครไม่ต้องเสียใจครับ ผมสู้แน่นอนครับ"

นางสาวพรรณิการ์ โฆษกพรรค กล่าวอีกว่า ส.ส. กลุ่มนี้เป็นเพียงเสี้ยวเดียว เพราะ ส.ส.อนาคตใหม่ โดนซื้อตัวเกือบยกพรรค คาดว่าผู้ซื้อตัวเห็นว่าเป็น ส.ส.หน้าใหม่ ที่ฐานะธรรมดาและต้องการใช้เงิน แต่ต้องไม่ลืมว่า พรรคอนาคตใหม่เกิดจากอุดมการณ์ เงินจึงซื้อไม่ได้

ส่วนสาเหตุที่มีการซื้อตัว นางสาวพรรณิการ์ มองว่า เป็นเพราะอีกฝั่งหนึ่งประกาศตั้งรัฐบาลที่มีเสียงเพียงแต่ 150 กว่าเสียง แม้จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะมี ส.ว. 250 คอยสนับสนุน แต่การโหวตกฎหมายอื่นๆ จะต้องใช้เฉพาะเสียง ส.ส. แต่ในเมื่อมีเสียงไม่เพียงพอ การซื้อตัวคนจากอีกฝั่งหนึ่งให้สนับสนุนฝั่งตัวเองจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook