หล่อทะลุเครื่องแบบ เปิดใจ "สารวัตรหนุ่ม" ชายชุดขาวจอดแวะช่วยคนเจ็บ

หล่อทะลุเครื่องแบบ เปิดใจ "สารวัตรหนุ่ม" ชายชุดขาวจอดแวะช่วยคนเจ็บ

หล่อทะลุเครื่องแบบ เปิดใจ "สารวัตรหนุ่ม" ชายชุดขาวจอดแวะช่วยคนเจ็บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักท่องเที่ยวแห่ใจกำลังใจและชื่นชมการทำงานของ "ชายชุดขาว" สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว "พ.ต.ต.ธนาธิป" จากภาพจอดรถช่วยเหลือฝรั่งบาดเจ็บข้างทาง

จากกรณีข้าราชการชายหนุ่มใส่เครื่องแบบชุดขาว เข้าช่วยเหลือนักปั่นจักรยานชาวต่างชาติ ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุถูกจักรยานยนต์เฉี่ยวชน บริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้เคียงสี่แยกตลาดผลไม้ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง กระทั่งสังคมโซเชียลมีเดียต่างสงสัยว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าวคือใคร ล่าสุดก็ทราบแล้วว่า เขาก็คือ พ.ต.ต.ธนาธิป จิตราคนี สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.1 บช.ทท เป็นสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวระยอง

ล่าสุดในวันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวระยอง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง พบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาร่วมแสดงความยินดีในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยวระยอง ที่ได้ดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ พ.ต.ต.ธนาธิป สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวระยอง หรือ ชายชุดขาวที่ตกเป็นข่าวในโลกออนไลน์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

ขณะเดียวกันก็ยังมี นางสุวรรณณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และ นางเยาวเรส เว้นบาป บริษัทลักกี้ เรือพญานาค และผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายท่านนำดอกไม้มามอบให้เป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

news08-1

>> ชาวบ้านประทับใจ "ชายชุดขาว" หยุดช่วยอุบัติเหตุ มารู้ทีหลังเป็นนายตำรวจใหญ่

ทั้งนี้ พ.ต.ต.ธนาธิป จิตราคนี สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวระยอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโซเชียลมีเดียนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ตนปฏิบัติภารกิจพิธีตักบาตรและลงนามถวายพระพร เนื่องในงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.)

แต่ระหว่างเดินทางกลับนั้น บังเอิญพบเหตุชาวต่างชาติได้รับอุบัติเหตุจักรยานเฉี่ยวชนกับจักรยานยนต์พอดี จึงหยุดรถเพื่อช่วยเหลือ พบชาวเยอรมัน อายุ 76 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขา โดยมีมูลนิธิกู้ภัย อบต.ตะพง มาถึงพอดี และช่วยนำส่ง รพ.ระยอง ส่วนคนขี่จักรยานยนต์เป็นชาวเมียนมา ลูกจ้างโรงงานน้ำแข็ง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.ธนาธิป มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีกับการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปอีกทางด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook