จีนฉะสหรัฐฯ เลิกใส่ร้ายป้ายสี แนะเอาเวลาไปส่งเสริมสันติภาพดีกว่า

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ เกิ๋งส่วง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนได้โต้ตอบรายงานกลยุทธ์อินโด-แปซิฟิกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่กล่าวหาประเทศจีนว่าบ่อนทำลายระบบระหว่างประเทศด้วย “มหาอำนาจลัทธิแก้”(Revisionist powers)

เกิ๋งกล่าวโต้ว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานและฟังไม่ขึ้นอย่างที่สุด และกล่าวเสริมว่า ในฐานะที่จีนเป็นประเทศแรกที่ลงนามในกฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) ซึ่งจีนได้ปกป้องกฎข้อบังคับระหว่างประเทศอยู่เสมอมา และจะรักษาระบบและข้อบังคับระหว่างประเทศเช่นนี้ต่อไป โดยมีเป้าหมายและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติเป็นที่ตั้ง

ขณะเดียวกัน เกิ๋งได้กล่าวถึงการทูตฝ่ายเดียว การปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง และการกดขี่กลั่นแกล้งประเทศอื่นๆ ของสหรัฐฯ เช่น การที่สหรัฐฯ ไม่ให้ความร่วมมือและถอนตัวออกจากข้อตกลงและสถาบันสำคัญระหว่างประเทศมากมาย รวมถึง ความตกลงปารีส ข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์กับอิหร่าน และองค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ

นอกจากนี้เกิ๋งยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในฐานะสมาชิกองค์การค้าโลก (WTO) สหรัฐฯ ได้ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้งหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังใช้อำนาจการขึ้นภาษีเป็นไม้แข็งเป็นประจำ” 

เกิ๋งทิ้งท้ายถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ว่า ควรมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและพัฒนาการทั่วโลก แทนที่จะใส่ร้ายป้ายสีประเทศจีน