สิบเวรสะดุ้ง หนุ่มถอดเชือกกางเกงผูกคอตายคาห้องขัง ญาติสลดเล่าปูมหลังน่าเศร้า
(5 มิ.ย. 62) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ตร.ภ.ชุมพร เดินทางไปยัง สภ.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร เพื่อตรวจสอบ กรณีมีผู้ต้องหาผูกคอตายในห้องขัง บน สภ.ละแม โดยมี นายแพทย์จาก รพ.ละแม ปลัดอำเภอละแม อัยการสำนักงานอัยการจังหวัดหลังสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชุมพร หน่วยกู้ภัยละแม และ ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต เข้าร่วมตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 06.00 น. เมื่อ ร.ต.อ.วงษ์จักร วงศ์โรจน์ฤทธิ์ ตำรวจบันทึกประจำวัน กำลังนำแฟ้มสำนวนคดี ไปให้ นายศราวุฒิ หรือ เอส อายุ 39 ปี ที่ถูกจับข้อหายาเสพติด ได้ ยาบ้า 207 เม็ด ยาไอซ์ 3.93 กรัม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.62 นำตัวมาควบคุมไว้ที่ห้องขัง บน สภ.ละแม เพื่อเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า นายเอสแขวนคอตายกับลูกกรงเหล็กในห้องขังแล้ว จึงรีบรายงาน ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น พร้อมทั้งเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในห้องขัง เพื่อดูเหตุการณ์
ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นว่า ในช่วงเวลา 01.00 น.ของวันนี้ ได้มีสิบเวรที่เฝ้าหน้าห้องขังเข้าไปตรวจสอบ ความเรียบร้อยภายในห้องขัง ที่มีผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 4 นาย เป็นข้อหายาเสพติด 3 นาย ข้อหาเมาสุรา 1 นาย หลังจากนั้น ในเวลา 01.48 น. ที่มุมห้องด้านซ้าย เห็นภาพ นายเอส ดึงเชือกที่ใช้เป็นสายรัดของกางเกงกีฬาขาสั้น แล้วผูกกับเหล็กลูกกรงห้องขัง ผูกกับคอของตนเอง ก่อนที่ปีนซี่กรงเหล็กขึ้นไป แล้วกระโดดลงมาร่างกระตุกแล้วแน่นิ่งไปในเวลา 01.50 น. จนกระทั่งมีตำรวจมาพบ ในช่วงเวลาเช้าตรู่
ส่วนสาเหตุการผูกคอตาย ตำรวจเล่าว่า นายเอส พึ่งพ้นโทษในข้อหายาเสพติดจากเรือนจำหลังสวน มาเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อวาน ตำรวจ สภ.ละแม ได้ไปจับกุม ผู้ค้ายาเสพติดมาได้ 2 คน ซัดทอดว่า ซื้อยาเสพติดมาจากนายเอส จึงบุกเข้าจับกุมนายเอส ที่บ้านใน ต.ทุ่งคาวัด อ.ละแม พบยาบ้า 207 เม็ด และ ยาไอซ์ 3.93 กรัม นำตัวมาสอบสวนปากคำ นายเอสให้การรับสารภาพ จึงนำเข้าห้องขัง ก่อนจะนำไปฝากขังในวันนี้ แต่นายเอสน่าจะขยาดกับการถูกคุมขังในเรือนจำ ที่คงถูกตัดสินจำคุกหลายปี ทำให้คิดสั้นใช้เชือกในกางเกงกีฬา ผูกคอตาย ซึ่งจากชันสูตรพบว่า สาเหตุการตายมาจาก กระดูกคอหักจากการกระโดดและถูกเชือกดึง ทำให้เสียชีวิต
นายจักตรี อายุ 42 ปี ลูกพี่ลูกน้องของ นายเอส ที่เดินทางมาร่วมตรวจสอบศพของนายเอส กล่าวว่า “ชีวิตนายเอสน่ารันทดมาก แม่กับพ่อแยกทางกันตั้งแต่นายเอสยังเด็ก มีย่านายเอสให้การเลี้ยงดู หลังจากจบ ป.6 นายเอสก็ไม่ได้ทำงานทำการเป็นหลักแหล่ง อีกทั้งพ่อต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดเสมอ ต่อมานายเอส เข้าไปพัวพันกับการเสพยาและกลายเป็นผู้ค้ายาเสพติด จนถูกจับ ถูกจองจำในเรือนจำ เมื่อพ้นโทษออกมา ก็ไม่รู้จะทำงานอะไร หันกลับไปเสพยาและค้ายาเสพติดจนกระทั่งมาเกิดเหตุในครั้ง ส่วนสาเหตุการตาย ไม่ติดใจสงสัย เพราะเขาทำตัวเขาเอง” จึงนำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดก่อนจะนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป