ตามหาวุ่น เด็กวัย 13 หายตัวข้ามคืน ที่แท้น้อยใจญาติ อยากหนีไปบวช

ตามหาวุ่น เด็กวัย 13 หายตัวข้ามคืน ที่แท้น้อยใจญาติ อยากหนีไปบวช

ตามหาวุ่น เด็กวัย 13 หายตัวข้ามคืน ที่แท้น้อยใจญาติ อยากหนีไปบวช
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เด็กชายวัย 13 หายไป ออกตามหาวุ่นข้ามคืน ล่าสุดพบตัวแล้ว สารภาพหนีออกจากบ้านเพราะน้อยใจ อยากไปบวชเรียน พม.เข้าพูดคุย หลังเด็กยืนยันไม่ขอกลับบ้าน

(6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (5 มิ.ย.) ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธีธรรมสถานได้รับแจ้งจาก น.ส.สายบัว อายุ 46 ปี ระบุว่าหลานชายหายออกไปจากบ้านนานหลายชั่วโมงแล้ว ทราบชื่อคือ น้องท็อป อายุ 13 ปี จึงได้ระดมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมธีฯ กว่า 20 คน ออกค้นหาพร้อมด้วยอุปกรณ์ส่องสว่าง

เมื่อไปถึงบ้านผู้แจ้งพบว่าบริเวณรอบๆ บ้านเป็นพื้นที่โล่ง ติดกับนาข้าวแต่ไม่ได้ทำการเพาะปลูกและมีดงกล้วยขนาดใหญ่ อาสาสมัครกู้ภัยฯ จึงได้แยกย้ายกันค้นหาจนทั่วบริเวณ แต่ก็ไม่พบเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. จึงหยุดการค้นหา และจะออกตามหาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

จากการสอบถาม น.ส.สายบัว เปิดเผยว่า ตนเป็นป้าของน้องท็อป เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากพ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน พอเรียนจบป.6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ น้องออกมาช่วยเลี้ยงวัวบ้าง ช่วยเลี้ยงน้องบ้าง และไม่เคยออกไหนไกล นอกจากไปซื้อของแค่หน้าปากซอยเท่านั้น และไม่เคยไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ไหน มักจะอยู่ติดบ้านอยู่ทุกวัน

ก่อนหน้าที่น้องท็อปจะหายตัวไป น้องบอกว่าจะไปก่อไฟให้วัว ซึ่งคอกวัวก็อยู่หลังบ้านห่างนิดเดียว แต่ผ่านไปเป็นชั่วโมงน้องยังไม่เข้าบ้าน ตนจึงตะโกนเรียกหาก็ไม่มีเสียงตอบรับ พอออกไปดูก็ไม่เห็นจึงบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันตามหาแต่ไม่พบ จึงได้โทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยฯ หลังจากนั้นได้มีการโพสต์รูปของน้องท็อปลงในโลกโซเชียลเผื่อใครพบเจอจะได้แจ้งญาตให้ทราบ

กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายคมสันต์ สำราญราษฎร์ กำนันตำบลไร่ใหม่ว่า ล่าสุดได้รับแจ้งจากนายชูเกียรติ เมฆขยาย ผู้ใหญ่บ้านพุน้อย ตำบลสามร้อยยอด ว่า ลูกบ้านได้พบกับน้องท็อปแล้ว และพาตัวมายัง สภ.สามร้อยยอด

จากการสอบถาม น้องท็อป เล่าให้ฟังว่า เพราะว่าตนถูกดุด่าและตีทำโทษ เพราะตนดื้อ แม้จะโดนตีไม่บ่อย แต่ก็ทำให้หัวแตกมาแล้ว ทั้งนี้ตนรู้สึกน้อยใจที่ไม่ค่อยได้กินขนมที่อยากกิน ไม่ได้ของที่อยากได้ จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน พกบัตรประชาชนมาใบเดียวโดยเดินเท้าออกจากบ้านมาที่หน้าตลาด เมื่อเห็นรถสิบล้อมาจอดซื้อของ จึงเข้าพูดคุยขอติดรถไปลงที่ข้างหน้า ที่เป็นจุดรอรถและมีถนนตัดไปฝั่งชายทะเลได้

แต่ช่วงนั้นดึกมาก ตนจึงไปนอนอยู่ใกล้ๆ กับร้านค้า พอรุ่งเช้าก็เดินไปตามถนน หวังจะเดินไปเรื่อยๆ ให้ถึงวัดพุน้อย โดยตั้งใจว่าจะไปขอบวชเรียนที่วัดดังกล่าว แต่พอเดินไปได้ไม่ไกลปรากฎว่ามีพี่ผู้หญิงขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็น และได้จอดรถสอบถาม และบอกให้นั่งซ้อนท้ายไปกับพักที่บ้าน ก่อนจะหาข้าวให้กินและหาเสื้อผ้าเปลี่ยนให้ ไม่นานก็มีผู้ใหญ่บ้านมารับและพามาที่สถานีตำรวจดังกล่าว

ผู้ใหญ่บ้านพุน้อย เล่าเพิ่มเติมว่า ในช่วงสายตนได้รับโทรศัพท์จากลูกบ้านบอกว่า พบเจอเด็กชายที่มีการแชร์ภาพตามหากันในโลกโซเชียลแล้ว ให้มารับเพื่อพาไปส่งให้กับญาติพี่น้องของเด็กจึงได้ประสานมาที่สถานีตำรวจและพาเด็กมาส่งดังกล่าว

ทางด้าน พันตำรวจเอกเฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามร้อยยอด หลังพบเด็กจึงได้ประสานต่อไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์(พมจ.ปข) เพื่อเข้าพูดคุยกับเด็กและผู้ปกครองของเด็ก เนื่องจากเด็กยืนยันที่จะไม่กลับบ้านและจะขอบวชอย่างเดียว

โดยหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ทางผู้ปกครองยินดีให้น้องท็อปได้บวช แต่ขอให้บวชที่วัดสามร้อยยอด ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้บ้าน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ พม. ได้ลงบันทึกข้อตกลงว่าทางผู้ปกครองจะไม่กระทำการรุนแรงกับเด็ก และยินยอมให้เด็กไปบวช ถ้ามีเหตุการรุนแรงเกิดขึ้นกับเด็กก็จะดำเนินการตาม พรบ.ความรุนแรงในครอบครัว และ พรบ.คุ้มครองเด็กต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook