แค้นเพราะมีกิ๊ก เมียคว้าปืนออกมาขู่ผัวตัวแสบ กระสุนลั่นยิงใส่แก้มเจ็บ
ผัวเมียเปิดฉากทะเลาะวิวาทกันริมถนน ชักปืนออกมาขู่ ก่อนจะปัดโทรศัพท์อีกฝ่ายงัดขึ้นมาถ่ายคลิป กระสุนเกิดลั่นเปรี้ยง เข้าแก้มเจ็บสาหัส สารภาพเพราะแค้นจับได้แอบมีกิ๊ก
(6 มิ.ย.) พ.ต.ต.สมชาย เมฆหมอก สารวัตสอบสวน สภ.ชะอำ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลชะอำ ว่า มีคนถูกอาวุธยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณสี่แยกริมคลองชลประทานโรงสูบ บ้านหุบกะพง ม.7 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เข้ารับการรักษาตัว จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ภคิน ภิวเมธากุล ผกก.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.สมยศ ฉิมพาลี รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.พรม แก้วพรายตา สว.สส.สภ.ชะอำทราบ พร้อมรุดไปตรวจสอบ
ก่อนจะพบ นายกาเหว่า อายุประมาณ 55 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณแก้มซ้าย 1 นัด ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวในห้องฉุกเฉิน และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระเจ้าเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว พร้อมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนจะพบรถยนต์บรรทุกน้ำหกล้อ สีขาว ของผู้บาดเจ็บจอดอยู่
จากการตรวจสอบพบกองเลือดของผู้บาดเจ็บตกอยู่บนพื้นเป็นจำนวนมาก ภายในรถพบหัวกระสุนปืนขนาด .22 ตกอยู่ 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นางเพ็ญจิตร์ อายุ 59 ปี หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะอีซุซุ สีน้ำเงิน หลบหนีไปบ้านญาติ พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ
ต่อมา นางเพ็ญจิตร์ ผู้ต้องหาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ โดยนำอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ขนาด .22 และปลอกลูกกระสุนปืนที่ใช้ยิงแล้ว ขนาด. 22 จำนวน 1 ปลอก คาอยู่ในรังเพลิงมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้พาตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ชะอำ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางเพ็ญจิตร์ กำลังขับรถกระบะ เพื่อจะไปรับน้ำถังมาขาย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้พบเห็น นายกาเหว่า กำลังจอดรถหกล้อ เพื่อเติมน้ำอยู่ข้างคลองชลประทาน ผู้ต้องหาจึงจอดรถและได้หยิบปืนไปด้วย โดยปืนที่ผู้ต้องหาถือลงไปนั้นเป็นปืนของนายกาเหว่าที่เก็บไว้ที่บ้านพัก
แต่ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น ผู้ต้องหากับนายกาเหว่าได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เนื่องจากนายกาเหว่าแอบไปมีหญิงอื่น ทำให้นายกาเหว่าได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะถ่ายคลิปวีดีโอ ทำให้ผู้ต้องหาจึงได้ใช้ปืนปัดไปที่โทรศัพท์ของนายกาเหว่า แต่ปรากฏว่าเกิดปืนลั่นขึ้นมา กระสุนโดนแก้มด้านซ้ายของนายกาเหว่าได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่เคยรู้มาก่อนว่าอาวุธปืนมีลูกกระสุนอยู่ ผู้ต้องหาจึงเกิดอาการตกใจกลัวและขับรถยนต์หลบหนีไปหลบอยู่บ้านญาติ ต่อมาผู้ต้องหาจึงตัดสินใจเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้นำของกลางมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณ โดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และพยายามฆ่าผู้อื่น นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป