ฟังจากมุมตำรวจ ดราม่าคลิปหนุ่มอ้างถูกทำร้าย ชุดสีกากีขอความยุติธรรมบ้าง

ฟังจากมุมตำรวจ ดราม่าคลิปหนุ่มอ้างถูกทำร้าย ชุดสีกากีขอความยุติธรรมบ้าง

ฟังจากมุมตำรวจ ดราม่าคลิปหนุ่มอ้างถูกทำร้าย ชุดสีกากีขอความยุติธรรมบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องนี้อาจเป็นมหากาพย์ ฝ่ายตำรวจหนุ่มออกโรงเปิดใจ ขอความยุติธรรมให้ชุดสีกากี ยืนยันไม่ได้ทำร้ายหนุ่มคู่กรณี หลังอีกฝ่ายแชร์คลิป อ้างตามรังควาน-ชกต่อยถึงผับ เพราะแค้นเรื่องเมื่อ 2 ปีก่อน

จากกรณีที่ นายพรหมมนัส อายุ 27 ปี ได้ออกมาเรียกร้องขอความยุติธรรม หลังโพสต์คลิปอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.กาญจนบุรี ทำร้ายร่างกาย กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเคยเป็นคู่กรณีกันจากอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อน แต่อ้างว่าฝ่ายตำรวจยังตามรังควานไม่เลิก ประเด็นไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติและมีการสั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวน ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุด ส.ต.ท.ชนาธิป สอดศรี ผบ.หมู่ (ป) สภ.เมืองกาญจนบุรี ลูกชายของ ร.ต.ท.ชัดถ้อย สอดศรี รอง สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นคู่กรณีในคดีอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อน ได้ออกเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ว่า หลังจากที่มีการแชร์เผยแพร่คลิปดังกล่าวในโลกโซเชียลมีเดีย พร้อมอยากขอเรียกร้องความเป็นธรรมจากฝ่ายตนเองเช่นเดียวกัน เพราะยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ตนอยากชี้แจงว่า บางสิ่งบางอย่างที่หลายคนออกมากล่าวโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ข้อเท็จจริงก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ตนเป็นผู้เสียหายจากการที่คู่กรณีเป็นคนกระทำ พ่อของตนต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว ปัจจุบันอาการยังคงโคม่าอยู่ และยังมีอาการสมองบวม เพราะขาดน้ำเลี้ยงในสมอง กะโหลกยังไม่ได้ปิด ส่วนร่างกายซีกซ้ายเคลื่อนไหวไม่ได้ ลักษณะคล้ายเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก

สิ่งที่เกิดขึ้นได้กระทบกระเทือนต่อจิตใจของตนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามตนอยากฝากด้วยว่า ความเป็นเพื่อนมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก ก็ควรที่จะมีจิตสำนึกมาถามไถ่อาการหรือแวะมาเยี่ยมดูอาการบ้าง แต่ที่ผ่านมาคู่กรณีไม่เคยติดต่อมาเลย

ส่วนในวันที่เกิดเหตุนั้น ตนก็ไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนๆ ร่วมงาน 4 -5 คน แต่บังเอิญที่ได้นั่งโต๊ะข้างๆ กับคู่กรณี ตนนั่งหันหน้าไปทางนั้นพอดี ขณะที่อีกฝ่ายก็มองเห็นตนเช่นเดียวกัน โดยคู่กรณีได้ทำหน้าตายียวนเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน เพื่อนตนก็ห้าม ไม่อยากให้มีปัญหากัน จึงลุกเดินไปบอกคู่กรณีว่าให้กลับออกไปก่อนดีกว่า

>> "กฤษณะ" ออกโรงแจงดราม่า คลิปชายอ้างถูกตำรวจทำร้าย สั่งสอบด่วน

หลังจากนั้น ฝ่ายคู่กรณีก็ได้เดินออกไป แต่ปรากฏว่าไปเรียกพรรคพวกมา 3-4 คน และมาอยู่ตรงโต๊ะตัวเดิม พร้อมกับยืนจ้องมองหน้าตน พร้อมกับกวักมือเรียกตนไปหาอย่างท้าทาย ตนจึงเดินออกไปจากร้าน ขณะที่เพื่อนๆ ก็คอยห้ามปราม เพราะไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นที่นี่

เมื่อออกไปเจอกับคู่กรณีที่บริเวณด้านนอกร้านก็พบว่า อีกฝ่ายมีพรรคพวกของเขารออยู่ด้านนอกอีกกว่า 10 คน ขณะที่ตนกับเพื่อนๆ มีเพียง 5 คน ส่วนประเด็นที่อ้างว่ามีการนำปืนมาข่มขู่นั้น ตนขอชี้แจงว่าสถานบริการได้ทำการตรวจค้นอาวุธทุกคนที่เข้าไปใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจก็ต้องถูกตรวจค้นเช่นกัน และยืนยันว่ากลุ่มตนไม่ได้มีการชกต่อยคู่กรณีแต่อย่างใด มีแต่การเข้าไปห้ามปราม ยื้อแย่ง กระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งหรือผลักดันกันเกิดขึ้น แต่จะผลักโดนตรงจุดไหนนั้น ตนก็ไม่ทราบ

ทั้งนี้ในวันนั้นตนไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ตนไปเที่ยวพักผ่อนแบบส่วนตัว ไม่ได้สวมเครื่องแบบ และไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นอกเครื่องแบบแต่อย่างใด โดยบังเอิญไปเจอคู่กรณี

“หากคุณโดนแบบผมบ้าง พ่อผมเป็นพ่อคุณ อยากถามว่า ใครรังแกใครกันแน่ และถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร ทุกๆ วันผมจะต้องเจอพ่อที่อาการยังน่าเป็นห่วง ทั้งที่เขาใช้ชีวิตได้ตามปกติ มีหน้าที่การงานที่ดี และกำลังจะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และนับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ เขาก็ไม่สามารถปฏิบัติงานได้อีกเลย”

ส.ต.ท.ชนาธิป กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าไม่ได้โดนตัวคู่กรณีตามที่เอาคลิปไปแชร์แต่อย่างใด และขอให้เห็นใจครอบครัวของตนด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมมาแล้วทั้งชีวิต และวันนี้ยังมีคลิปออกมาอีก อยากถามคนที่ปล่อยคลิปต้องการอะไรจากตน

>> หนุ่มร้องสื่อถามหาความยุติธรรม โดนตำรวจรังควาน คุกคามทำร้ายไม่เลิก

ขณะที่ ร.ต.อ.มานิต ทองเพชรพิสิษฐ์ รอง สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นชายสวมเสื้อสีน้ำเงินตามที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง ตนยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร ซึ่งมีจัดงานเลี้ยงงานบวชกัน

จากนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษๆ ก็มาสังสรรค์ต่อที่ร้านที่เกิดเหตุ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ในวันนั้นตนไปในฐานะคนทั่วไป ไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ โดยไปดื่มกินกับตำรวจรุ่นน้อง รวมกัน 5 คน โดยหนึ่งในรุ่นน้องที่ไปด้วยกัน เคยมีเรื่องเขม่นกับคู่กรณี ที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้กัน ตนจึงได้ตักเตือนไปยังรุ่นน้องและคู่กรณี ไม่อยากให้มีเรื่องทะเลาะกัน

ซึ่งหลังจากนั้นคู่กรณีก็เดินออกจากร้านไป ก็ไปพาพรรคพวกมาอีก ก่อนจะกวักมือเรียกอย่างท้าทาย ทั้งสองฝ่ายจึงออกไปนอกร้าน ตนจึงเดินตามออกไป เพราะเกรงว่าจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ในขณะนั้นชายวัยรุ่นนับสิบได้กรูเข้ามาหาตน ตนจึงพยายามที่จะเข้าไปป้องกันห้ามปราม โดยที่ตนไม่ได้ต่อยคู่กรณีแต่อย่างใด แต่อีกฝ่ายไม่ยอมฟัง ซ้ำยังท้าทาย ก้าวร้าว และด่าทอต่างๆ นานา ใส่ตำรวจอย่างเสียหาย ตนก็อยากจะขอความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมรายงานให้ทราบผลภายใน 7 วัน ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.มานิต ที่เป็นคู่กรณีไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ภ.จว.กาญจนบุรี แล้ว จนกว่าจะมีคำสั่ง ขณะที่พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ของ นายพรหมมนัส หรือนายโม ภูศรี และดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook