ภาพช็อกหน้าห้างดัง หนุ่มขี่รถชนขอบสะพานพระราม 4 ร่างลอยลงมาตายบนรถเก๋ง

เมื่อเวลา 17.30 น. (11 มิ.ย. 62)  พ.ต.ท.สัญญา บุญสุวรรณ์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งอุบัติเหตุรถจยย. ชนขอบราวสะพานมีผู้เสียชีวิตร่างตกลงมาคาอยู่หลังรถยนต์หน้าห้างเมเจอร์ สาขาปากเกร็ด ถ.ภูิมเวท  ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศจักร ปรีชาการุณพงศ์  ผกก. พ.ต.ท.พลเทพ นันทสำเริง รองผกก.สส. แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุหน้าห้างดังกล่าวพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า รุ่นแอลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วร-798 กรุงเทพมาหานคร บริเวณกระโปรงหลังท้ายรถยุบ กระจกแตก มีร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นายเบญจพล อายุ 22 ปี  สภาพศพยังสวมหมวกกันน็อค ใส่กางเกงสแลคสีดำ สวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวทับด้วยเสื้อแจ๊กเก็ต มีเลือดออกที่จมูก กระดูกซี่โครงหัก

สอบสวนนายสมภพ อายุ 57 ปี  เจ้าของรถเก๋ง เปิดเผยด้วยเสียงที่ยังตื่นเต้น ตกใจไม่หายว่าก่อนเกิดเหตุขับรถออกมาจากบ้านพักในหมู่บ้านเกร็ดแก้วการ์เด้นท์ 2 ย่านห้าแยกปากเกร็ด  เพื่อจะไปรับลูกกับภรรยาที่โรงเรียนเผดิมศึกษาย่านถนนเพชรเกษม  มาถึงจุดเกิดเหตุหน้าห้างได้ยินเสียงดังโครมที่ท้ายรถ ทีแรกตกใจคิดว่าใครมาชนท้าย หรือไม่ก็แก๊สระเบิด พอลงมาจากรถเห็นคนมุงดูกันเต็มและบอกว่ามีคนตกมาจากสะพานพระราม 4 ก็รู้สึกเสียใจเพราะผู้ตายยังเป็นเด็กและเป็นนักศึกษา ส่วนตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดแต่ถ้าตกลงมาด้านหน้าสงสัยคงเจ็บแน่นอน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบบนสะพานพระราม 4 ตรงจุดที่อยู่ตรงหน้าห้างพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง ใหม่เอี่ยมไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนพลิกคว่ำ โดยมีร่องรอยชนขอบราวสะพานจึงคาดว่าผู้ตายคงขี่จยย.มาถึงช่วงทางโค้งแล้วเสียหลักชนขอบสะพาน ส่วนตัวนายเบญจพลร่างได้ลอยละลิ่วร่วงลงมาจากสะพานที่มีความสูงกว่า 4 เมตร ตกลงเสียชีวิตบนรถเก๋งที่วิ่งอยู่ด้านล่างท่ามกลางสายตาประชาชนที่กำลังจับจ่ายซื้อของอยู่หน้าห้างเมเจอร์ต่างพากันตกใจจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก

เวลาต่อมาได้มีนักศึกษาจำนวนหลายคนต่างพากันมาที่เกิดเหตุพร้อมยืนยันว่าผู้ตายคือนายเบญจพล นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ โดยต่างพากันร้องไห้ด้วยความเสียใจและบอกว่าผู้ตายเพิ่งออกรถจยย.คันนี้มาได้เพียงเดือนเดียว และขี่รถออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อกลับบ้าน ไม่คิดว่าต้องมาจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร