เผามันให้หมด ก็อดซิลล่ารับผิดชอบเอง!

เผามันให้หมด ก็อดซิลล่ารับผิดชอบเอง!

เผามันให้หมด ก็อดซิลล่ารับผิดชอบเอง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แหม! พอพูดเรื่องการทำลายบ้านเมืองนี่นะคุณขา เทยคิดว่าในนาทีนี้ ก็ไม่มีอะไรจะป็อปไปกว่า “ก็อดซิลล่า” ที่กำลังกลับมาโลดแล่นในโรงภาพยนตร์ในช่วงสองสัปดาห์นี้ กับ “Godzilla II : King of the Monsters” ด้วยกระแสที่ใหญ่ยักษ์กระทืบกระแสอื่นๆ ให้พังไปเป็นแถบๆ วันนี้เทยเลยอยากมาเมาท์เรื่องน่ารู้อร่อยๆ เบื้องหลังน้องตุ้ยนุ้ยกันค่ะ ว่าน้องก็อดซิลล่ามันเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน

หลังจากกองทัพสหรัฐฯ ชนะกองทัพญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง ทางอเมริกาก็ออกกฎเซนเซอร์ ไม่ให้ทางญี่ปุ่นทำสื่อ propaganda เกี่ยวกับกองทัพอันเกรียงไกรหรือจักรวรรดิญี่ปุ่นที่เป็นเผด็จการอีก

เมืองนางาซากิหลังถูกโจมตีโดยกองทัพสหรัฐฯ ในสงครามโลกครั้งที่สองAFPเมืองนางาซากิหลังถูกโจมตีโดยกองทัพสหรัฐฯ ในสงครามโลกครั้งที่สอง 

แต่ด้วยบาดแผลที่พี่ยุ่นนางได้รับจากการโดนระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิมันฝังใจ ทางญี่ปุ่นนางก็เลยหาวิธีถ่ายทอดเรื่องราวของการถูกถล่มเมืองจนราบคาบ จนออกมาเป็นภาพยนตร์ชุด Godzilla ในปี 1954 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เจ้าน้องตุ้ยนุ้ยก็ออกเริงร่าถล่มเมือง เป็นตัวแทนสัญญะของนิวเคลียร์ที่ถล่มเมืองมนุษย์มาจนปี 2019 นี้แหละเจ้าค่ะ

ก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นปี 1954MHM Podcast Networkก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นปี 1954

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของน้องตุ้ยนุ้ยก็คือ ในตอนแรกเนี่ย ผู้กำกับนางก็ตั้งใจจะให้เป็นตัวแทนบาดแผลของนิวเคลียร์ที่อเมริกานางมาบึ้มบ้านเขานั่นแหละ แต่ทำไปทำมา น้องก็กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเคารพธรรมชาติของชาวญี่ปุ่นเฉยเลย หลังจากภาค 1954 น้องก็อดซี่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อปราบเหล่าสัตว์ประหลาดตัวต่างๆ เพื่อปกป้องโลกไว้ สัตว์แต่ละตัวก็พอจะแทนเป็นอิทธิพลที่ญี่ปุ่นได้รับในช่วงปีต่างๆ ไว้ เช่น นางคอง ในปี 1962 ที่ก็ดูเหมือนว่าจะแทนพวกคอมมิวนิสต์ที่มาแทรกๆ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น หรือคิงกิโดร่า มังกรเกล็ดสีทองสามหัว ที่ดูยังไงก็จีนจนเกินจะปกปิด ซึ่งก็เหมือนเป็นการแทนว่า ญี่ปุ่นนางก็หวาดกลัวอิทธิพลมหาอำนาจใหม่อย่างจีนที่ก็เพิ่งทดลองนิวเคลียร์และเป็นคอมมิวนิสต์เหมือนกันในช่วงสงครามเย็น

จากตัวร้าย ก็กลายเป็นสัญญะของพระเอกแดนอาทิตย์อุทัยเฉยเลย ขุ่นพระ น้องก็อดซี่นี่ไม่ธรรมดา แต่ถึงแม้ว่าน้องจะขึ้นมาปราบสัตว์ประหลาดตัวใหม่ๆ ชนะอยู่ร่ำไป แต่ขึ้นบกมาที เมืองก็หายไปแถบนึง ชาวบ้านชาวช่องแตกตื่น ดังนั้นในตัวเนื้อเรื่อง จะไม่ให้มีฝ่ายที่ต่อต้านการขึ้นมาถล่มเมืองของน้องเลย มันก็ออกจะไม่สมจริงใช่มะ

ดังนั้นหลังจากช่วงปี 1970 เป็นต้นมา น้องก็อดซี่จึงต้องต่อสู้กับมนุษย์ในเรื่องมาเรื่อย แล้วก็นะคะ ความญี่ปุ่นในช่วงปลายๆ 80 นางก็มีความพัฒนาเทคโนโลยีตั่งต่าง การ์ตูนหลายเรื่องในยุคนั้นก็เริ่มมีหุ่นยนต์เข้ามามากขึ้น หมายใจจะปลูกฝังให้เด็กเยาวชนใส่ใจวิทยาศาสตร์ ก็อดซี่ก็ไม่น้อยหน้า โดนลากไปตีกับหุ่นยนต์ไปอีกจ้า เพื่อลองวัดกันว่า ระหว่างธรรมชาติกับเทคโนโลยี ใครจะยืนหนึ่ง เอ้อ เอาซิ

ก็อดซิลล่าในยุค 1980s พร้อมคู่ต่อสู้ที่เป็นหุ่นยนต์My Kaijuก็อดซิลล่าในยุค 1980s พร้อมคู่ต่อสู้ที่เป็นหุ่นยนต์

นี่พวกเธอ เห็นแบบนี้นี่นะ ว่าบาป น้องก็อดซี่ ฮีเป็นต้นแบบของการทำหนังประเภท Suitmation หรือการเอาคนใส่ชุดไปเล่นถล่มฉากที่เล็กกว่า หลังจากความรุ่งเรืองของการฟาดฟันของน้องนะ อุลตร้าแมนเอย ขบวนการห้าสีเอย ลามไปยันมดเอ็กซ์เอย ก็ใช้เทคนิคนี้กันจนเกร่อวงการสื่อในญี่ปุ่นเลยทีเดียวล่ะ

และก็เพราะว่าน้องแมสมาก ทางฮอลลีวูด ก็เคยซื้อน้องไปทำเป็นเวอร์ชั่นหนังตะวันตกมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 1998 ซึ่งแป้กสนิท เงียบกริบ ซึ่งหน้าตาน้องในเวอร์ชั่นฮอลลีวูดเวอร์ชั่นแรก เป็นงี้

ก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นฮอลลีวูดimdbก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นฮอลลีวูด

ฮือ T T

ดังนั้นในปี 2000 ทาง TOHO จึงเก็บความอับอาย นำน้องกลับบ้านมาสร้างใหม่ในชื่อ Godzilla 2000 แม้ว่าก่อนหน้านั้น จะมีการปิดตำนานน้องไปแล้วในภาคศึกอวสาน ปี 1995 ซึ่งด้วยความที่แขวนชุด เผาน้อง เก็บเข้ากรุไปแล้ว การกลับมาของเวอร์ชั่น 2000 ที่ญี่ปุ่น มันจึงเริ่มการใส่ CG เข้ามาเป็นครั้งแรกๆ และในช่วงหลังจากปี 2000 มานี้เอง ที่น้องก็อดซี่ของเรา เริ่ม “ตุ้ยนุ้ย” มากขึ้นทุกทีในทุกๆ ภาค

จนกระทั่งค่าย Legendary ของ Warner Bros. Picture ได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์จาก TOHO อีกครั้ง และยืนยันจะทำน้องให้เหมือนต้นฉบับมากที่สุด และทุกคนก็ได้เห็นน้องอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Godzilla ในปี 2014 และเป็นครั้งแรกที่น้อง “ตุ้ยนุ้ย” ระยะสุดท้าย เพราะน้องสูงถึง 108 เมตรเลยทีเดียว ถล่มสถิติก็อดซิลล่าที่สูงที่สุดไปในประวัติศาสตร์น้องก็อดซี่ในปีนั้น

Infographic แสดงพัฒนาการความสูงของก็อดซิลล่าFilmcoreInfographic แสดงพัฒนาการความสูงของก็อดซิลล่า

แต่ก็ใช่ว่าน้องจะตุ้ยนุ้ยขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ เพราะเนื้อหาของภาพยนตร์ในปี 2014 ก็มีการพูดถึงน้องในแง่ที่ว่าน้องเนี่ย เป็นเจ้าบ้าน เจ้าโลกมาตั้งแต่ยุคโบราณ เป็นผู้คืนสมดุลสู่ธรรมชาติตั่งต่าง คราวนี้ น้องเลยเป็นตัวแทนของการทวงคืนจากธรรมชาติหรือภัยพิบัตินั่นเองน่ะ เหมือนแบบโลกสมัยนี้มันร้อนขึ้น ภัยพิบัติมันก็ต้องตัวโตขึ้น และมนุษย์ตัวเล็กกระจ้อยร่อย อย่างเทย อย่างทุกๆ คน ก็ต้องยอมสยบให้กับน้องเสียนะจ๊ะ

ความน่าสนใจของก็อดซี่ในเวอร์ชั่น 2014 มีอยู่สองเรื่องที่เทยขอไฮไลต์และคอนทัวร์ให้ชัด คือหนึ่ง มันเป็นการสร้างจักรวาล Monster-Verse ค่ะคุณขา มันเป็นหนังจักรวาลสัตว์ประหลาดค่ะ ราวกับหนังฮีโร่ Marvel Studios ก็ไม่ปาน เพราะมันมีเจ้า Kong แห่งเกาะ Skull Island ภาพยนตร์ในปี 2017 ถูกรวมเข้ามาด้วย เป็นการเปิดเนื้อหาว่านี่นะ โลกของเราไม่ได้มีสัตว์ยักษ์แค่ตัวเดียว มันเลยทำให้ตลาดแฟนยิ่งตื่นตา ว่าโอ๊ย ฉันจะได้เสพน้องและผองเพื่อนยักษ์ใหญ่มาไล่ถล่มเมืองกันให้หนำใจ ส่วนไฮไลต์ที่สอง เทยคิดว่า ทางฮอลลีวูดหรืออเมริกา ก็คงรู้ว่าต้นทางของน้องก็อดซี่เนี่ย มันเกิดมาจากบาดแผลของสงครามที่ไปทำกับญี่ปุ่นนางไว้ เนื้อหาเลยค่อนไปในทางประนีประนอมกับธรรมชาติ เชื่อในวิถีเซนแบบญี่ปุ่น ปล่อยให้ธรรมชาติจัดการตัวเอง กลายเป็น Meme ที่โด่งดังทางโซเชียลอย่าง Let Them Fight นี่แหละค่ะ ความอิงการเมืองอะโนะ

แน่นอน พอทางฮอลลีวูดเปิดไพ่มาแบบนี้ ทางพี่ยุ่นก็ไม่น้อยหน้า ส่งภาคล่าสุด Godzilla Resurgence 2016 ออกมาเป็นหนังการเมืองที่พูดแบบสมจริงเลยว่า ถ้าน้องขึ้นบกจริงๆ ในโลกแห่งความจริง รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดการยังไง เอารัฐธรรมนูญมากางในโรงกันไปเลย ยั่วๆ แต่ประเด็นก็คือ น้องก็อดซี่ในภาคนี้ตัวสูงขึ้นอี๊กกกกก ทุบในทุบสถิติไปอีกรอบ

Kotaku

แต่เดี๋ยวก่อน ถึงน้องจะตัวสูงที่สุดในภาคนี้ และเนื้อหาของเรื่องอิงการเมืองอย่างเคร่งเครียดที่สุด หน้าตาน้องของภาคนี้ ดันเป็นงี้

Blu-ray

ฮือ T T

แต่ในตอนนี้ค่ะ น้องกลับมาทวงบัลลังก์ราชาแล้ว กับภาคล่าสุด ที่กำลังเข้าโรงอยู่ในช่วงสองสามสัปดาห์นี้ กับ Godzilla : King of the Monsters ซึ่งเป็นภาคต่อในจักรวาลมอนสเตอร์ต่อจากภาคปี 2014 ของค่าย Legendary นี่แหละค่ะ ซึ่งการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของน้องตุ้ยนุ้ยในภาคนี้ พิเศษตรงที่ คู่ปรับตลอดการอย่างกิโดร่าก็มาปรากฏตัวในภาคนี้ด้วย รวมถึงมอนสเตอร์ขวัญใจกะเทย ราชินีแห่งมอนสเตอร์ “มอธร่า” หนึ่งในสัตว์ประหลาดอีกตัวที่โด่งดังมาตั้งแต่เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ก็มาปรากฏตัวในภาคนี้เช่นกัน กะเทยกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ จะไปกับแสงสี กับปีกที่สวยๆ ผีเสื้อกลางคืนอะโนะ ความกะเทย

Dreadcentral

เทยขอไม่สปอยล์ละกันนะคะสำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู แต่เนื้อหาโดยรวมก็ยังคงพูดถึงการเอาคืนของธรรมชาติต่อมนุษย์ที่ไม่ได้ใส่ใจโลกมากนัก ก็ตามเทรนด์ยุคโลกร้อน 2019 อะนะคะ

เรื่องเล่าของน้องตุ้ยนุ้ย ตลอดระยะเวลา กว่า 65 ปี น้องก็อดซี่เผาบ้านเผาเมืองมาเพราะจุดเริ่มต้นของสงครามและการทำลายล้าง งานภาพยนตร์ที่เป็นศิลปะของการถ่ายทอดประเด็น ก็หาช่องทางในการสร้างอนุสรณ์ของบาดแผลเอาไว้ แล้วดูสิเธอ มันต่อยอดมาได้จนกลายเป็นปรากฏการณ์ต่อคนรุ่นหลังให้ได้ศึกษา และดูความอหังการ ความยิ่งใหญ่ของน้องตุ้ยนุ้ยที่สูงเสียดฟ้าเข้าไปทุกทีแล้ว

ก็นะ มนุษย์เรานี่ก็เป็นเพียงแค่เศษฝุ่นของราชันแห่งสัตว์ประหลาดจริงๆ เลยเนอะ

เหยี่ยวเทย รายงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook