เมียเผยคนขับรถเก๋งพูดเป็นลางก่อนตาย จากอุบัติเหตุชนประสานงาสยอง 4 ศพ

เมียเผยคนขับรถเก๋งพูดเป็นลางก่อนตาย จากอุบัติเหตุชนประสานงาสยอง 4 ศพ

เมียเผยคนขับรถเก๋งพูดเป็นลางก่อนตาย จากอุบัติเหตุชนประสานงาสยอง 4 ศพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีอุบัติเหตุรถชนกันและมีเพลิงลุกไหม้บนถนนสายโรงน้ำตาล - ปลวกแดง หมู่ 1 ตำบลตาสิทธิ์ และมีผู้เสียชีวิตหลายราย เป็นรถยนต์ตู้สีบรอนซ์เงิน คนขับคือ นายอาหามะพาราดี อายุ 35 ปี บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่รพ. ขณะที่คู่กรณี รถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV นายโชคชัย อายุ 35 ปี ผู้ขับขี่ โดยในรถมีผู้โดยสารเป็นแรงงานกัมพูชา 2 คน เป็นผู้ชายและหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ราย

>> ประสานงาสยอง! เก๋งดับ 3 ศพ หญิงท้องตายทั้งกลม คนขับรถตู้คู่กรณีสาหัส

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 มิ.ย.) น.ส.นิชาพรรณ ภรรยาของนายโชคชัย อายุ 35 ปี คนขับรถฮอนด้า HRV เล่าว่า สามี เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างตามไซต์งานในโรงงาน ขณะเกิดเหตุก็กำลังเดินทางกลับบ้านที่ในอำเภอเมือง จ.ชลบุรี โดยมีคนงานแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา นั่งโดยสารมาด้วยเป็นสามีภรรยากัน

ก่อนเกิดเหตุสามีได้พูดเป็นลางในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า “เหนื่อย ไม่ไหวแล้ว แม่ หนูอยากกลับบ้านเกิด” และในช่วงบ่ายวันเดียวกันก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกว่า “แม่จ๋า หนูไม่ไหวแล้ว หนูอยากกลับบ้าน” ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเสียสามีไปในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ โดยจะนำศพไปตั้งที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอเอราวัณ จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา

ด้าน นายประชาติ อายุ 45 ปี เพื่อนของนายอาหามะพาราดี อายุ 35 ปี คนขับรถตู้ เล่าว่า หลังเกิดเหตุ นายอาหามะพาราดีซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลปลวกแดงก่อนที่จะส่งต่อไปโรงพยาบาลระยอง และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลระยอง

นายประชาติ เล่าอีกว่า นายอาหามะพาราดี ผู้เสียชีวิต ชื่อเล่น  มะ เขาเป็นคนที่หลายคนรักใคร่ ก่อนเกิดเหตุมะได้ไปรับพนักงานออกมาจากบริษัทที่ตนขับรถรับส่ง อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

รับออกมาเวลาประมาณ 2 ทุ่ม แล้วไปส่งพนักงานที่มาบปู ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังส่งเสร็จประมาณ 3 ทุ่ม ก็มาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าดวงของมะถึงฆาต ทั้งที่ไม่ใช่คิวเขารับส่งพนักงานสายมาบปูเลย ตนมองว่าถ้าเขาไม่แลกคิวกับเพื่อนก็คงไม่ตาย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอผลจากพิสูจน์หลักฐานระยองเพื่อทำการสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook