รักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรี 5 สมัย ส.ส. 7 สมัย เสียชีวิตแล้วในวัย 65 ปี
เมื่อเวลา 07:37 น. เฟซบุ๊กของ ด.ต.พงศ์สรรค์ แสนแก้ว โพสต์ภาพและข้อความที่ระบุว่า นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีและ ส.ส. หลายสมัย ได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยมีเนื้อหาดังนี้
"อดีต รมต. 5 สมัย ส.ส. 7 สมัย ... นายรักเกียรติ สุขธนะ ท่านได้เสียชีวิตแล้วที่ จ.เชียงราย ในวัย 65 ปี ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจงไปสู่สุคติภพภูมิที่ดี ด้วยเทอญ (ฌาปนกิจ 14 มิ.ย. 62)"
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติของนายรักเกียรติ สุขธนะ พบว่าเคยเป็นรัฐมนตรี 5 สมัย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 7 สมัย โดยเมื่อปี พ.ศ. 2541 ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยา และมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ศาลมีคำพิพากษาในปี พ.ศ. 2546 ให้จำคุกและยึดทรัพย์
ส่งผลให้ นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตรับสินบน ตามการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฐานทุจริตรับเงินสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยา ทำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต้องจัดซื้อยาในราคาแพงกว่าปกติตั้งแต่ 50% ถึงกว่า 300% ในพื้นที่ 34 จังหวัดทั่วประเทศ ความเสียหายโดยประมาณ 181.7 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า "....จำเลยสำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรีทางกฎหมายแต่กลับมาทำความผิดคอร์รัปชันเช่นนี้ จึงเห็นสมควรลงโทษสถานหนัก พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ให้ลงโทษจำคุก 15 ปี..." (คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑/๒๕๔๖)
นอกจากนี้ นายรักเกียรติยังเป็นจำเลยในคดีร่ำรวยผิดปกติอีกด้วย โดยวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินของนายรักเกียรติจำนวน 233.88 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน
แต่นายรักเกียรติหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จนกระทั่งมีผู้พบเห็นนายรักเกียรติออกกำลังกายในสวนสาธารณะย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงถูกตำรวจจับกุมตัวมารับโทษตามคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547
ภายหลังจากเข้ารับโทษที่เรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว นายรักเกียรติได้รับการลดโทษเหลือ 9 ปี 2 เดือน และ 7 ปี 6 เดือน ตามลำดับ จนเมื่อนายรักเกียรติรับโทษจำคุกมานานกว่า 5 ปี เหลือโทษจำคุกจริงอีก 2 ปี 6 เดือน หรือประมาณ 1 ใน 3 จึงเป็นผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การขอพักการลงโทษ คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษฯ จึงอนุมัติให้พักการลงโทษและได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังเรือนจำกลางคลองเปรมเพื่อให้ปล่อยตัวนายรักเกียรติออกจากเรือนจำ ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552
>> รักเกียรติพ้นคุกสำนึกผิดลั่นไม่ยุ่งการเมืองอีก
หลังจากได้ออกจากเรือนจำ นายรักเกียรติเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา โดยได้รับฉายาว่า รกฺขิตธมฺโม จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมวังพญานาค วัดใหม่สุขธนะศรีนคราราม บ้านวังชัย ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเคยเป็นสำนักงานเก่าเมื่อสมัยเป็นนักการเมือง มีบทบาทในการเทศนาและให้ข้อคิดเตือนใจบรรดานักการเมืองในเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ก่อนจะลาสิกขาบท เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556 รวมระยะเวลาบวชทั้งสิ้น 3 พรรษา 2 เดือน