หนุ่มซิ่งเก๋งตกคูเมืองเชียงใหม่-กู้ภัยวุ่นงมหาเพื่อนอีก 2 สุดท้ายสารภาพว่าโกหก
หนุ่มซึ่งเก๋งชนต้นไม้จนรถขาด 2 ท่อนตกคูเมืองเชียงใหม่ อ้างมีเพื่อนมาด้วยอีก 2 คน กู้ภัยงมหาผู้สูญหายนานกว่า 2 ชั่วโมง สุดท้ายคนขับรับสารภาพว่าโกหก ที่จริงขับรถมาคนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 มิ.ย.) เมื่อเวลา 01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนต้นไม้แล้วตกลงไปในคูเมืองเชียงใหม่ มีผู้บาดเจ็บและสูญหายในน้ำ เหตุเกิดที่บริเวณคูเมืองด้านนอก หน้าโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ อ.เมืองเชียงใหม่
จุดเกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน สภาพพังเสียหายยับเยิน โดยมีชิ้นส่วนหน้ารถขาดครึ่ง และส่วนด้านท้ายรถตกลงไปในน้ำ โดย นายวุฒิกร อายุ 38 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ คนขับรถคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำตัวขึ้นมาจากน้ำได้รับบาดเจ็บ และอยู่ในอาการตื่นตกใจ
นอกจากนี้ ยังบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองเป็นคนขับและมีผู้โดยสารมาด้วยอีก 2 คน รวมเป็น 3 แต่อีก 2 คนติดอยู่ช่วงท้ายของรถที่ตกลงไปในน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำจึงต้องเร่งนำอุปกรณ์พร้อมเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือค้นหาอย่างเร่งด่วน
นายวุฒิกร ยังบอกอีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เป็นคนขับรถคันดังกล่าวมาจากพื้นที่ อ.หางดง โดยมีเพื่อนมาอีก 2 คน ตั้งใจว่าจะมาเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยระหว่างที่ขับมาก็ได้ขับมาด้วยความเร็วพอสมควรเนื่องจากเป็นช่วงดึกถนนค่อนข้างโล่ง
จนกระทั่งมาถึงยังบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะที่ขับมาด้วยความเร็วรถได้เกิดเสียหลักส่ายไปมา และเกิดหมุนปัดกลางถนน จนกระทั่งเสียการควบคุมทำให้พุ่งชนเข้ากับต้นไม้ที่อยู่บริเวณข้างทางติดคูเมือง
โดยฝั่งซ้ายด้านข้างตัวรถได้ชนเข้ากับต้นไม้อย่างแรงจนกระทั่งรถอัดขาดครึ่ง ส่วนหน้ารถอยู่บนถนน และด้านร่างตกลงไปในคูเมือง ซึ่งตนก็ได้กระเด็นตกลงไปในน้ำด้วย แต่สามารถออกจากรถแล้วขึ้นฝั่งมาได้
เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการจัดชุดประดาน้ำเพื่องมหาผู้ที่สูญหายในน้ำ จนกระทั่งนายวุฒิกร ผู้รอดชีวิตสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลว่าตนเองโกหก ความจริงแล้วมาเพียงคนเดียว แต่ขับมาด้วยความเมาจึงอ้างว่ามีคนมาด้วยเนื่องจากกลัวความผิด
ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งกับชุดประดาน้ำให้ยกเลิกภารกิจตามหาร่างผู้โดยสารดังกล่าว โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกับทางผู้ประสบเหตุอีกครั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป