"ตูน บอดี้สแลม" ขอบคุณคนอีสาน ร่วมวิ่ง-ต้อนรับอบอุ่น ยอดทะลุ 49 ล้าน
"ตูน บอดี้สแลม" วิ่งเข้าเส้ยชัย จ.ขอนแก่น ได้สำเร็จ พร้อมขอบคุณคนอีสานที่ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น ทั้งมาร่วมออกวิ่งและร่วมบริจาค ยอดทะลุ 49 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.สมชาย ครรภาฉาย ผบ.มทบ. 23 และ พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้ให้การต้อนรับ “ตูน บอดี้แสลม” ที่ห้องรับรองชั้น 4 ภายในศาลากลาง จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งพูดคุยถึงเรื่องของการรักษาพยาบาล และโรคต่างๆ ที่มักจะเกิดกับคนอีสานเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโรคพยาธิใบไม้ในตับ โรคมะเร็งตับ
โดยผู้ว่าฯ ขอนแก่น ก็ได้กล่าวขอบคุณ “ตูน บอดี้สแลม” ที่ได้มาปลุกกระแสให้ชาวขอนแก่นรวมทั้งชาวอีสานทุกคนหันมาตื่นตัวในเรื่องของการออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำผ้าไหมมามอบให้กับตูน โดยผู้ว่าฯ ได้บอกกับตูนว่า จังหวัดขอนแก่นนี้ถือว่าเป็นดินแดนผ้าไหม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ผ้าไหมที่แพงที่สุดก็อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น โดยผ้าไหมดังกล่าวนี้อยู่ที่ อ.ชนบท
ตูน บอดี้สแลม กล่าวว่า โครงการก้าวทีละก้าว ตั้งใจจะไปให้ครบทั้ง 5 ภาค ภาคละ 2 วัน ซึ่งจุดเริ่มต้นของกิจกรรมเราก็ไม่คิดว่ายอดจะเยอะขนาดนี้ อย่างไรก็ตามใจจริงของพวกเรานั้น ต้องการอยากเห็นคนไทยทุกคนมาบริจาคคนละ 10 บาท หรือ 20 บาท เท่านั้น ไม่ได้มุ่งหวังที่จะได้รับบริจาคเป็นเงินก้อนโตๆ เพราะเงิน 10 บาทเมื่อนำมารวมกันก็จะขนาดมากพอที่จะไปช่วยเหลือ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ดีๆ แจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลชุมชนในเขตภาคอีสานได้อีกหลายๆเครื่อง ที่จะไปช่วยชีวิตได้จริงๆ
“ที่สำคัญที่สุด คือผมอยากได้มากกว่าเรื่องเงิน คือการให้ทุกคนหันมาออกกำลังกาย มาวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ เช้าเย็น แทนการไปเดินห้าง เพราะเมื่อคนเรามีสุขภาพดี ก็ไม่ต้องไปใช้โรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น ซึ่งเท่าที่ตนได้คุยกับคุณหมอหลายๆ คนหลาย ๆ โรงพยาบาลท่านบอกว่าสาเหตุ การเสียชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่มาจากโรค เบาหวาน ความดัน ซึ่งเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ เมื่อทุกคนลุกขึ้นมาออกกำลังกายมากขึ้น มีสุขภาพดีมากขึ้น มันก็จะดีมากกว่าการที่เรา เอาเงินไปให้กับโรงพยาบาลอย่างเดียว”
นายอาทิวราห์ กล่าวต่ออีกว่าขอขอบคุณชาวอีสานทุกคนว่า ตลอดระยะเวลาที่จัดกิจกรรมในภาคอีสาน พบว่าทุกคนเป็นคน น่ารักๆ ตลอดเส้นทางการวิ่งจากหนองคายลงมาถึงอุดรฯถึงขอนแก่น ได้มีประชาชนที่ทำไร่ทำนาอยู่สองข้างทางวิ่งออกมาบ้างเดินออกมาบ้าง เพื่อเอาสตางค์มาให้ตน คนละ 100 บาทบ้าง หรือมากน้อยกว่านั้นก็มี โดยบอกกับตนว่า "เอาไป เอาไป" ซึ่งเป็นอะไรน่ารักมาก เพราะทุกคนอยากมีส่วนร่วม ทุกคนอยากมีส่วนช่วยเหลือโรงพยาบาล ต้องขอบคุณเพราะเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ