ลุงโร่แจงดราม่า สาดน้ำซุปใส่ลูกค้า แชร์ว่อนโดนฉายา "ก๋วยเตี๋ยวบางกร่าง"

ลุงกี้ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวดังเมืองนนท์ หลังโดนแชร์คลิปดราม่า ทะเลาะลูกค้า-สาดน้ำซุปร้อนๆ ใส่ ยอมรับผิดเพราะโทสะ แต่ลูกค้าเป็นฝ่ายด่าหยาบใสก่อน ก้มหน้าเสียค่าปรับที่โรงพัก

(17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านลุงกี้ ก๋วยเตี๋ยวเรือบางกร่าง เมืองนนทบุรี หลังจากที่มีคลิปภาพแชร์ออกไปทั่วโซเชียลมีเดีย เหตุการณ์ถูกเจ้าของร้านสาดน้ำซุปร้อนๆ ใส่ลูกค้า กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา และผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางศรีเมือง แล้ว

นายปิยวัฒน์ หรือ ลุงกี้ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ได้ออกมาชี้แจงกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ตนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวมา 23 ปี ไม่เคยมีปัญหากับลูกค้ามาก่อน แต่ในวันที่เกิดเหตุที่ร้านมีลูกค้าเข้าเยอะ ก่อนจะลูกค้าเดินมาถามว่า ออเดอร์ของเขาได้หรือยัง ตนจึงบอกไปว่า ตนทำตามออเดอร์ ไม่ได้ทำตามใคร

พอดีเป็นจังหวะที่ลูกค้าที่เข้ามา 2 ท่านได้แจ้งว่า ไม่กินแล้ว ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ให้เด็กไปเก็บเงินค่าน้ำ จากนั้นลูกค้าโต๊ะผู้หญิงกลุ่มหนึ่งได้ปรบมือชอบใจ เพราะคิวก่อนหน้าได้ยกเลิกออเดอร์แล้ว ประกอบกับออเดอร์ทำเสร็จพอดี เมื่อนำไปเสิร์ฟลูกค้าก็ไม่ทาน กลับลุกขึ้นมาด่า และเริ่มด่าคำหยาบคายขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนแรกตนก็รู้สึกเฉยๆ เอาไว้ก่อน หลังจากนั้นลูกค้าก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป ลูกชายตนจึงบอกว่าให้ถ่ายให้ครบนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลูกค้าก็ยังไม่หยุดด่า ตะโกนลั่นร้าน ไม่ยอมไปสักที ทำให้ตนรู้สึกรำคาญและทนไม่ไหว ด้วยความโทสะจึงตักน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวสาดใส่ในทันที

ลูกค้ายังขู่ว่าจะแชร์คลิปนี้ให้ร้านแจ๊ง ลูกชายจึงบอกไปว่า "พ่อขายมา 20 ปี ถ้าจะเจ๊ง ก็เจ๊งไปนานแล้ว" ด้วยเหตุนี้น่าจะเป็นมูลเหตุทำให้เข้าใจว่า ขายมานานไม่ง้อลูกค้า ฝ่ายตนก็ยังถามต่อว่า ทำไมถึงมาด่ากัน เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นเด็ก มากับแม่และน้องชาย แต่กลับไม่มีใครห้าม ดันผสมโรงช่วยด่ากันไปด้วย

หลังจากนั้น ลูกค้าจึงไปแจ้งความ ตนก็ตามไปเสียค่าปรับและลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ก็คิดว่าเรื่องจบไปแล้ว ปรากฏว่ามีการแชร์คลิปออกไป ตนทราบว่าใครเป็นคนแชร์คลิปนี้ เพราะภายในร้านมีกล้องวงจรปิดและบันทึกเอาไว้ได้ แต่ก็รู้สึกน้อยใจที่เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่กลับไปชี้แจงถึงสาเหตุทั้งหมด

ลุงกี้ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยอมรับว่ามีผลกระทบกับลูกค้าบ้าง แต่ลูกค้าประจำก็จะทราบถึงนิสัยของตนดี ก่อนหน้านี้ก็เคยมีลูกค้าบ่นเรื่องคิวนานเหมือนกัน เพราะช่วงเวลาเร่งด่วนก็อาจจะต้องรอออเดอร์นาน 20-30 นาที เพราะต้องทำตามคิวที่สั่ง ตนจึงอยากฝากคนที่วิจารณ์ประเด็นนี้ อยากให้ทราบถึงข้อเท็จจริงก่อน

เบื้องต้น ลุงกี้ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ขณะที่บรรยากาศในร้านยังคงมีลูกค้าแน่นร้านเหมือนเดิม ยังมีคนสั่งอาหารเป็นจำนวนมาก และลุงกี้ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารตามออเดอร์ตามปกติ ไม่ได้ลัดคิวใคร ลูกค้าที่มาทานบอกว่า ลุงเป็นคนนิสัยดี ยิ้มแย้ม แต่จะพูดเสียงดังตามประสาพ่อค้า ส่วนละคนที่มาทานเป็นประจำ ก็ไม่เคยเห็นว่าร้านนี้มีเรื่องทะเลาะกับลูกค้า ก็มีแต่ลูกค้ารอคิวไม่ไหวเท่านั้น