คดีส่อพลิก ตร.เช็กกล้องปมไล่ฟัน นศ.เทคนิค 2 ศพ อาจเป็นแค่กุเรื่องขึ้น

ตำรวจเช็กภาพวงจรปิด สืบคดี 2 นักศึกษาเทคนิคเสียชีวิตคาถนนรอบคูเมือง เพื่อนอ้างมีแก๊งไทใหญ่ไล่ฟัน แต่หลักฐานไม่พบคู่กรณี ส่อคดีพลิกเป็นการกุเรื่องขึ้นมา

(18 มิ.ย.) จากกรณีเหตุนักศึกษาชายของวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 2 ศพ จากเหตุรถจักรยานยนต์ล้มบริเวณถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ ใกล้กับวัดป่าเป้า โดยมีพยานอ้างว่าผู้เสียชีวิตถูกกลุ่มวัยรุ่นชาวไทใหญ่เข้ามาหาเรื่อง ทำให้ถูกชักมีดดาบไล่ฟันทำร้าย เมื่อขี่รถหนีมาถึงจุดเกิดเหตุรถเสียหลักล้มลงและถูกไล่ฟันเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้กับที่เกิดเหตุ ก่อนจะพบว่าช่วงก่อนเกิดเหตุ พบเห็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่ควบคู่กันมา มาจากทางด้านวัดโลกโมฬี เมื่อมาถึงตรงจุดเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์อีกคันอยู่ด้านหน้า ทำให้รถคู่กรณีล้มเสียหลักลง

ภาพจากกล้องวงจรปิดยังเผยให้เห็นว่า รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตได้ล้มไถลไปกับพื้น ส่วนร่างล้มกระแทกพื้นอย่างแรง โดยไม่พบว่ามีเหตุการณ์หรือผู้ใดเข้ามารุมทำร้ายหรือใช้มีดดาบฟันทำร้ายแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ นายเอก (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ให้การอ้างว่า มีคู่กรณีขี่รถตามไล่ฟันทำร้านมา ตนกับเพื่อนจึงได้ต้องขี่รถเร่งเครื่องหนี แต่เมื่อหันไปอีกทีก็พบว่ารถเพื่อนล้มเสียหลักไปกับพื้นถนน เมื่อจะเข้าไปช่วยก็ถูกคู่กรณีจะทำร้าย ทำให้ต้องขี่รถออกไปก่อน และจึงย้อนกลับมาดูอีกครั้ง ก็พบเห็นเจ้าหน้ากู้ภัยกำลังช่วยเหลือเพื่อนอยู่

นายเอก ยังให้การว่า คู่กรณีที่ก่อเหตุนั้นดูจากลักษณะและการแต่งตัวแล้ว น่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นชาวต่างด้าว หรือชาวไทใหญ่

ในเวลาต่อมา แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังต้องตรวจสอบหลักฐานอย่างชัดเจนเสียก่อนจึงจะสรุปได้ว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตของนักศึกษาทั้ง 2 คนนั้นเป็นเช่นใดกันแน่ และมีการขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ฟันกันจริงหรือไม่ รวมทั้งคู่กรณีเป็นวัยรุ่นไทใหญ่จริงหรือไม่

ขณะเดียวกันมีพยานหลักฐานว่ากลุ่มของผู้เสียชีวิตนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์และนัดรวมกลุ่มกันรวมประมาณ 50 คัน อยู่บริเวณลานประตูท่าแพตั้งแต่ช่วงกลางดึก กระทั่งมาเกิดเหตุในช่วงเช้ามืด ซึ่งจะมีการสอบปากคำเพื่อนร่วมกลุ่มของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง