สุดเวทนา คุณตาพิการขาสองข้าง โดนอุ้มมาทิ้งไว้ใต้สะพานเจษฎาฯ

ชาวบ้านพากันหดหู่ วอนช่วยคุณตาพิการขาทั้งสองข้าง-เดินไม่ได้ ถูกอุ้มมาทิ้งไว้ที่ใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ นนทบุรี พบเคยโดนทิ้งมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มาเจออยู่ที่เดิมอีกครั้งในวันนี้

(18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเจษฎาบดินทร์ ทางฝั่งเมืองนนทบุรี หลังมีผู้พบเห็นคุณตาวัย 65 ปี สภาพขาพิการทั้งสองข้าง เดินไม่ได้ ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ใต้สะพาน ซึ่งผู้ที่พบเห็นได้นำเรื่องราวของคุณตาไปโพสต์แชร์ในเฟซบุ๊ก เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ

จากการพูดคุยสอบถามทราบว่า คุณตาคนดังกล่าวคือ นายประชิต อายุ 65 ปี บ้านเดิมอยู่แถวซอยวัดจันทร์ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ คุณตาประชิต มีอาชีพเป็นช่างซ่อมและติดตั้งแอร์บ้านทั่วไปอยู่กับบริษัทแห่งหนึ่ง ต่อมาเกิดอาการขาทั้งสองข้างไม่มีแรง ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ จึงได้ลาออกจากงาน และมาเช่าห้องพักอยู่ที่ใกล้กับวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร อ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี

แต่เนื่องจากไม่ได้ทำงาน ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าห้องเช่า จึงต้องหลบหนีออกมา หวังจะไปพึ่งพาอาศัยลูกชายที่อยู่ไม่ไกลกัน แต่กลับถูกลูกชายนำมาทิ้งไว้ที่ใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ ทางฝั่ง ต.บางศรีเมือง โดยมีคนไปพบตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 หลังจากนั้นก็ได้มีการประสานตำรวจ สภ.บางศรีเมือง เพื่อนำตัวไปส่งที่สถานสงเคราะห์

ระหว่างที่จะนำตัวคุณตาไปนั้น ก็มีชายวัยกลางคนมารับตัวคุณตาไป คาดว่าน่าจะเป็นลูกชายของคุณตา กระทั่งเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว มีคนพบเห็นคุณตากลับมานั่งอยู่ที่ใต้สะพานดังกล่าวอีกครั้ง แต่เป็นคนละฝั่งกันกับคราวที่แล้ว ผู้ที่พบเห็นเป็นจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือ เบื้องต้นและนำเรื่องราวไปโพสต์แชร์ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่ทราบเรื่อง พากันแวะเวียนมาเยี่ยมและนำอาหาร-น้ำดื่มมาให้ เพราะความสงสารในโชคชะตา

นายฉัตรชัย อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลหมวดบำรุงทางหลวงราชพฤกษ์ เป็นผู้พบคุณตาเป็นคนแรก ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2561 เปิดเผยว่า ในวันนั้นตนกำลังจะไปปิดประตูทางเข้าใต้สะพานในช่วงเย็น ก็พบเห็นคนชายวัยกลางคน พาคุณตาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาปล่อยทิ้งเอาไว้ที่ใต้สะพาน

ตนจึงได้เข้าไปสอบถาม และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง มารับตัวคุณตาไปและให้ประสานทางไปทางสถานสงเคราะห์ ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่อยู่นั้น ชายคนดังกล่าวก็ย้อนกลับมารับคุณตาออกไปเอง กระทั่งมาพบเจอเรื่องราวของคุณตาในเพจเฟซบุ๊กอีกครั้ง ตนจึงได้เดินทางมาดู ก็พบว่าเป็นคุณตาคนเดียวกันกับที่ตนเคยพบ

ทั้งนี้ ตนรู้สึกเป็นห่วงคุณตา เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะมีคนนำอาหารมามอบให้ บางรายก็ให้เงินเพื่อให้คุณตาไว้ใช้จ่าย แต่บริเวณนี้มีคนเร่ร่อนอยู่เยอะ กลัวว่าจะมาแย่งของหรือทำร้ายคุณตาที่แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด่วน