น่าเศร้า หนุ่มแว่นเปิดเพลงรักเพลงเดียววนซ้ำๆ ก่อนจุดเตาถ่านรมควันฆ่าตัวตายคาเก๋ง

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. (18 มิ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกขาม รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ บริเวณริมถนนทางไปร้านอาหารหนึ่งคลองสองทะเล ม.8 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า พรีอุส สีขาว จอดติดเครื่องเปิดไฟหน้ารถอยู่ริมถนน ใกล้สนามฝึกเครื่องบินบังคับและสนามฟุตบอล ภายในโครงการจัดสรรไม่มีชื่อ เส้นทางไปร้านอาหารหนึ่งคลองสองทะเล

เจ้าหน้าที่มองเข้าไปในรถพบผู้ชายนั่งอยู่เบาะคนขับลักษณะคอพับ เจ้าหน้าที่ได้ขยับประตูรถพบว่าประตูไม่ได้ล็อกจึงเปิดประตูออกมา พบว่าผู้ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว จากการตรวจสอบภายในรถผู้ตายพบกระป๋องเบียร์ถูกดื่มหมดแล้ว 2 กระป๋อง ด้านที่นั่งเบาะหลังพบเตาอั้งโล่ลักษณะยังใหม่ๆ ตั้งอยู่บริเวณพื้นรถ ภายในเตาอั้งโล่มีเศษขี้เถ้าถ่านกองมอดอยู่ ใกล้กันพบถ่านหุงข้าว 1 ถุง เจ้าหน้าที่พบบัตรประชาชนผู้ชาย ทราบชื่อคือ นายพุทธิพร อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้านท้ายรถพบกล่องใส่นาฬิกา ภายในมีนาฬิกายี่ห้อดังอยู่ 3 เรือน และยังพบเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวอีกหลายรายการ

ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถพบว่า ผู้ตายเปิดได้เปิดเพลง แสนล้านนาที วนซ้ำๆ อยู่เพลงเดียว 

จากการสอบถาม นายแสงทอง อายุ 54 ปี ผู้พบศพคนแรก เล่าว่า ตนเองกับเพื่อนๆ มาเล่นบอลที่สนามบอลซึ่งผู้ตายมาจอดรถยนต์ใกล้ๆ โดยตนเองเห็นรถผู้ตายจอดติดเครื่องอยู่ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. แต่ไม่ได้สนใจอะไรเพราะบริเวณแถวนั้นมีคนชอบขับรถมาจอดกันบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะมากับผู้หญิง หลังจากที่เล่นบอลเสร็จประมาณ 20.45 น. ตนเองและเพื่อนก็มายืนคุยกันและยังเห็นรถยนต์ของผู้ตายจอดอยู่และมีการเปิดไฟหน้ารถจึงสงสัยและชวนเพื่อนๆ ไปดู จากนั้นจึงได้เคาะเรียกคนในรถแต่ไม่มีใครตอบ จึงกลับไปเอาไฟฉายในรถมาส่องดูก็พบคนขับนั่งคอพับจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้เพื่อนของนายแสงทอง ยังเล่าให้ฟังอีกว่า เห็นรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 9.00 น. แต่ไม่ได้สนใจ เพราะมีรถยนต์ชอบเข้ามาจอดแถวนั้นอยู่เป็นประจำ

ด้านเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด และคาดว่าผู้เสียชีวิตจุดเตาถ่านรมควันตัวเองภายในรถเพื่อให้เสียชีวิต พร้อมกันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และจะเร่งประสานญาติของผู้เสียชีวิตมาดูศพอีกครั้ง