เตือนแรงงานไทย ทำงานไต้หวันระวังติดคุก เพราะโดนหลอกเปิดซิมมือถือ

เตือนแรงงานไทย ทำงานไต้หวันระวังติดคุก เพราะโดนหลอกเปิดซิมมือถือ

เตือนแรงงานไทย ทำงานไต้หวันระวังติดคุก เพราะโดนหลอกเปิดซิมมือถือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เตือนภัยรูปแบบใหม่ แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศต้องระมัดระวังระหว่างลงนามเอกสารใดๆ อาจตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ ติดคุกได้ง่ายๆ เพราะโดนหลอกให้เปิดซิมมือถือ

สำนักแรงงานของกรุงไทเป เผยแพร่บทความระบุว่า แรงงานไทยที่เดินทางมาทำงานที่ไต้หวัน ต้องประสบภัยรูปแบบใหม่ ถูกพนักงานบริษัทจัดหางานของไทย หลอกให้เซ็นชื่อในแบบฟอร์มยื่นขอเปิดซิมการ์ดมือถือ ทำให้แรงงานไทย 200 กว่าคน หลังจากเดินทางเข้าสู่ไต้หวันได้ไม่นาน ก็ตกเป็นผู้ต้องหา

โดยถูกตำรวจออกหมายเรียกไปสอบปากคำ ข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ หรือหลอกลวงต้มตุ๋นชาวไต้หวัน ทั้งๆ ที่พูดภาษาจีนไม่ได้สักคำ บางคนยังไม่ทันจะเดินทางเข้าไต้หวันก็ตกเป็นผู้ต้องหาเสียแล้ว ทั้งนี้หลายคนยังไม่รู้สาเหตุว่าตนไปพัวพันกับคดีอาชญากรรมได้อย่างไร ทั้งที่ไม่เคยไปซื้อหาหรือขอเปิดซิมกับค่ายมือถือใด

ทั้งนี้ บริษัทจัดหางานไทยที่ไม่ประสงค์จะออกนามกล่าวว่า มีพนักงานบริษัทจัดหางานไทยบางบริษัท นำแบบฟอร์มยื่นขอเปิดซิมของค่ายมือถือในไต้หวัน ซึ่งมีตัวแทนอยู่ในประเทศไทย ไปหลอกให้คนงานเซ็น โดยนำไปปะปนกับเอกสารการเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน

จากนั้นก็ยื่นขอเปิดซิมต่อค่ายโทรศัพท์มือถือ แล้วนำซิมการ์ดเหล่านี้ไปขายต่อให้แก๊งมิจฉาชีพในไต้หวันนำไปก่อคดี ในราคา 3,000-5,000 เหรียญ ต่อ 1 เบอร์

เมื่อตำรวจดักจับสัญญาณมือถือของแก๊งมิจฉาชีพได้ พบเจ้าของเบอร์มือถือเป็นคนงานไทย จะออกหมายเรียกให้ไปสอบปากคำ ฐานเป็นผู้ต้องหาต้มตุ๋น คนงานไทยบางคนได้รับหลายใบ ต้องขอให้ล่ามพาไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจหลายท้องที่ ทำให้วิตกกังวลถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสุดท้ายคนงานไทยที่ตกเป็นเหยื่อเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะไม่ถูกสั่งฟ้อง แต่กว่าคดีจะสิ้นสุดก็ต้องเสียเวลาทำงาน และเสียสุขภาพจิตนานเป็นปีๆ ขณะที่บางคนโชคร้าย ให้การกลับไปกลับมา ถูกพิพากษาจำคุก ต้องไปรับโทษในคดีที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น

ทั้งนี้ จากสถิติของสำนักงานแรงงานไทย ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาพบว่า มีแรงงานไทยที่ได้รับหมายเรียกไปให้ปากคำแล้วร่วม 300 คน ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาเป็นเจ้าของเบอร์มือถือจากค่าย “จงหัวเทเลคอม” และไต้หวันโมบาย หรือ โอเคการ์ด ก่อคดีต้มตุ๋น ปิดป้ายโฆษณาสินค้าอย่าผิดกฎหมายและขู่กรรโชกทรัพย์ทางโทรศัพท์ หลังเดินทางเข้าไต้หวันได้ 1-3 เดือน และส่วนใหญ่ไม่เคยไปขอเปิดซิมการ์ดมือถือจากร้านใดๆ

เรื่องนี้ทางสำนักงานแรงงานไทยในกรุงไทเป ประชาสัมพันธ์ขอให้แรงงานไทยระมัดระวัง ขณะลงนามเอกสารใดๆ ก็ตาม ต้องตรวจดูชัดเจนก่อน หากไม่แน่ใจหรือเป็นเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้อง ควรปฏิเสธลงนาม เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของตน

นอกจากนี้ แรงงานไทย ยังต้องเก็บรักษาซิมการ์ดมือถือของตนไว้ให้ดี ไม่ยืมหรือให้คนอื่นนำไปใช้ เพราะที่ผ่านมาเคยมีแรงงานไทยที่ครบสัญญา เดินทางกลับบ้าน ทิ้งมือถือไว้ให้เพื่อนใช้ เมื่อกลับเข้ามารอบใหม่ถูกจับทันที ข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ เจ้าตัวปฏิเสธก่อคดี และให้การว่าซิมมือถือทิ้งไว้ให้เพื่อนใช้ก่อนกลับประเทศ ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงตกไปอยู่ในมือของแก๊งมิจฉาชีพได้ สุดท้าย เพื่อนคนดังกล่าวครบสัญญาเดินทางกลับบ้านไปแล้ว จึงไม่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของแรงงานไทยรายนี้ได้ ในที่สุดก็ต้องเข้าคุกรับโทษตามกฎหมาย

สำนักงานแรงงานเตือนว่า กรณีจะเดินทางกลับ หรือหมดความจำเป็นใช้แล้ว อย่าทิ้งหรือขายซิมการ์ดหรือมือถือให้คนอื่น เพราะจะสร้างความเดือดร้อนแก่ท่านได้โดยไม่รู้ตัว ควรหักทิ้งหรือทำลายเสีย และเอกสารหรือข้อมูลส่วนตัวก็ต้องระมัดระวัง อย่าเปิดเผยหรือให้คนอื่นนำไปใช้ เพราะอาจนำไปเป็นเอกสารประกอบการยื่นของซิมการ์ดได้ และเครื่องมือถือก็เช่นเดียวกัน อย่ารับหรือซื้อมือถือมือสอง หรือเห็นของคนอื่นตกหล่น อย่าเก็บมาใช้เด็ดขาด

เพราะมือถือทุกเครื่องจะมีรหัสอีมี่ เปรียบเสมือนเลขประจำตัวของมือถือแต่ละเครื่อง เวลาโทร.ออก เลขชุดนี้จะถูกส่งไปด้วย สามารถอ่านจากสัญญาณที่ดักจับได้ว่า โทร.ออกมาจากจุดใด ท่านอาจกลายเป็นผู้ต้องหารับซื้อของโจร หรือขโมยมือถือผู้อื่นไปใช้ ซึ่งเป็นคดีอาญามีโทษถึงจำคุกได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook