ตชด.บุกจับไม้สักหน้าใหญ่กลางป่า ลือคนมีสีอยู่เบื้องหลัง ขู่ปิดปากชาวบ้าน

ตำรวจตระเวนชายแดนนำกำลังเข้าจับกุมไม้สักแปรรูปขนาดใหญ่ ลอบตัดในพื้นที่บ้านห้วยแก้วบน แม่ฮ่องสอน พบคนมีสีในพื้นที่มีส่วนพัวพัน เตรียมรายงานทางลับให้ สตช. ลงทัณฑ์ต่อไป

เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) พ.ต.ต.ธวัชชัย สุรินต๊ะ ผบ.ร้อย.ตชด.336 (ค่ายปางหมู) อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานจากฝ่ายการข่าวว่ามีการลักลอบตัดโค่น ไม้สักทอง บริเวณพื้นที่บ้านห้วยแก้วล่าง หมู่ 7 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สำเริง ชำนาญ รอง ผบ.ร้อยฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจตระเวนชายแดน และแจ้งให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.1 ม่วงต๊อบ และ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.2 ม่อนตะแลง, ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 ค่ายม่อนตะแลง นำกำลังเข้าตรวจสอบ

จุดดังกล่าวอยู่บริเวณพื้นที่ป่าในเขตหมู่บ้านห้วยแก้วบน (บ้านบริวารบ้านห้วยแก้วล่าง) บริเวณพิกัด LB.849208 เจ้าหน้าพบไม้สักแปรรูปขนาดต่างๆ กองระเกะระกะในป่าทึบ ส่วนผู้กระทำผิดได้อาศัยความชำนาญป่าวิ่งหลบหนีไปได้ จึงได้ทำการตรวจยึดไม้สักแปรรูป 4 แผ่น ประกอบด้วย แผ่นที่ 1 กว้าง 114 ซม.44.8 นิ้ว ยาว 419 ซม. หนา 14 ซม. 5.5 นิ้ว ปริมาตร 0.67 ลบ.ม. แผ่นที่ 2 กว้าง 105 ซม 41.6 นิ้ว ยาว 379 ซม. หนา 18 ซม.7.05 นิ้ว ปริมาตร 0.72 ลบ.ม. แผ่นที่ 3 กว้าง 89 ซม. 35 นิ้วยาว 414 ซม. หนา 17 ซม.6.8 นิ้ว ปริมาตร 0.63 ลบ.ม. และแผ่นที่ 4 กว้าง 95 ซม.37.5 นิ้ว ยาว 370 ซม. หนา 10 ซม. 3.08 นิ้ว ปริมาตร 0.35 ลบ.ม. รวม 2.36 ลบ.ม. ค่าเสียหายที่รัฐพึ่งได้รับ 283,550 บาท

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด พรบ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 ฐานทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 45 ฐานแผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 69 ฐานมีไม้สักท่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ความผิด พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานทำไม้หรือทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต จึงได้บันทึกตรวจยึดและรวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่ง พงส.สภ.น้ำเพียงดิน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ระบุว่า ไม้สักทองดังกล่าวได้มีการลักลอบตัดและลำเลียงออกไปแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยราษฎรที่เป็นสายให้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ผู้ที่เป็นคนดำเนินการทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่คนมีสีในพื้นที่บ้านน้ำเพียงดิน ซึ่งไม่มีใครกล้าขัดขวาง เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล

ทั้งนี้ กลุ่มคนดังกล่าวได้มีการข่มขู่ราษฎรว่าห้ามให้ข่าว หรือไปแจ้งแก่ใครอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะมีอันเป็นไป ทำให้ราษฎรในพื้นที่รู้สึกอึดอัด กระทั่งได้มีการลอบส่งข่าวให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทราบ และนำมาสู่การตรวจยึดได้ในที่สุด