กรมประมงเผย “ปลาทูอ่าวไทย” ลดฮวบ เร่งมาตรการควบคุม หวั่นสูญพันธุ์
หวั่นสูญพันธุ์!! กรมประมง เผย 5 ปีที่ผ่านมาปลาทูในอ่าวไทยลดลงเป็นจำนวนมาก แจงแนวทางอนุรักษ์ ขยายพื้นที่ปิดอ่าว กำหนดขนาดตาอวนติดตาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เชื่อมั่นถ้าทุกคนร่วมมือกันปลาทูไทยไม่หายไป
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ระบุว่า กรมประมงมีความพยายามที่จะทำการเพาะพันธุ์และเลี้ยงปลาทู เพื่อให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจของไทย แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาให้สามารถเลี้ยงได้ในเชิงเศรษฐกิจเพื่อที่จะสามารถนำไปส่งเสริมเกษตรกรประกอบเป็นอาชีพได้ในอนาคต
โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา “ปลาทูในอ่าวไทย” ลดลงเป็นจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว กรมประมงได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงได้ร่วมมือกับชาวประมงทั้งพาณิชย์และพื้นบ้าน เพื่อที่จะหามาตรการที่จะควบคุมการทำประมง เพื่อทำให้ “ปลาทูในอ่าวไทย” มีจำนวนมากขึ้น โดยเป็นมาตรการที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการ “ปิดอ่าว” ในพื้นที่ประจวบฯ ชุมพร และสุราษธานี ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 พฤษภาคม ที่มีอยู่เดิมทุกปี
ทั้งมาตรการในการควบคุมการทำการประมงที่มีโอกาสที่จับพ่อแม่พันธุ์ปลาทูก่อนที่จะมีการวางไข่ โดยการกำหนดขนาดตาอวนติดตาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ในช่วงเวลา “ปิดอ่าว” และมาตรการในการควบคุมการทำประมงที่มีโอกาสจับลูกปลาทูที่พึ่งเจริญเติบโต โดยการกำหนดเขตห้ามทำการประมงในพื้นที่ประมาณ 7 ไมล์ทะเล นับจากเขตชายฝั่ง ต่อจากระยะเวลาที่ปิดอ่าวออกไปอีก 1 เดือน ในพื้นที่ปิดอ่าวเดิม
>> วิกฤตปลาทูไทย! ชาวเน็ตวอน หยุดซื้อ-ขาย-ไม่จับ ลูกปลาทูตากแห้ง
อีกทั้งได้เพิ่มพื้นที่ในการห้ามทำการประมงให้เกิดความเชื่อมต่อกับระหว่างการ “ปิดอ่าวตอนกลาง” และ “ปิดอ่าวตอนใน” พร้อมทั้งได้ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาและพื้นที่ในการ “ปิดอ่าวตอนใน” ให้มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองปลาทูโตเต็มวัยก่อนที่จะกลับมาวางไข่
ซึ่งการออกมาตรการเหล่านี้กรมประมงและชาวประมงทั้งพื้นบ้านและพาณิชย์ ได้ร่วมกันพิจารณาผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทั้งกับทรัพยากรปลาทูและชาวประมง อันเป็นความร่วมมือของชาวประมงทั้งพื้นบ้านและพาณิชย์ที่ต่างถอยกันคนละก้าวเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนต่อไป
“เราทุกคนก็สามารถมีส่วนร่วมได้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรปลาทูได้อย่างง่ายๆ คือ ไม่บริโภคปลาที่มีไข่ หรือ ปลาตัวเล็กๆ ปล่อยให้ปลาเหล่านี้ได้เติบโตมาเป็นอาหารในช่วงเวลาที่เหมาะสมและมีมูลค่าที่เศรษฐกิจดีกว่า หากเราทุกคนช่วยกัน กรมประมงเชื่อมั่นว่าท้องทะเล ทรัพยากรประมงจะกลับคืนความอุดมสมบูรณ์” อธิบดีกรมประมง กล่าว