ร.ต.อ. ลั่นไกจบชีวิต ก่อนตายเขียนจดหมายตัดพ้อ ถูกย้ายทำงานไม่ถนัดจนเครียด

ร.ต.อ. ลั่นไกจบชีวิต ก่อนตายเขียนจดหมายตัดพ้อ ถูกย้ายทำงานไม่ถนัดจนเครียด

ร.ต.อ. ลั่นไกจบชีวิต ก่อนตายเขียนจดหมายตัดพ้อ ถูกย้ายทำงานไม่ถนัดจนเครียด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 20.00 น. เมื่อวานนี้ (26 มิถุนายุ 2562) พ.ต.ท.อติชาติ พรฑิตกุล รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.มาบอำมฤต ได้รับแจ้งเหตุตำรวจยิงตัวตายในบ้านหลังหนึ่ง ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.ประพาส รอดเกลี้ยง รอง ผกก. (ป) พ.ต.ท.บุญเชต กัลปหา รอง ผกก.สส. ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.มาบอำมฤต หน่วยกู้ภัยปะทิว หน่วยกู้ชีพเทศบาลมาบอำมฤต

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สภ.มาบอำมฤต ประมาณ 500 เมตร เป็นบ้าน 2 ชั้น หลังใหญ่สวยงามอยู่ติดกับถนนคอนกรีต ตรวจสอบบริเวณห้องนอนชั้นสองพบศพทราบชื่อ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ อายุ 48 ปี สภาพศพนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน มีแผลถูกยิงที่ขมับขวาทะลุขมับซ้ายกระสุนพุ่งขึ้นไปเจาะฝ้าเพดานห้องเป็นรูโบ๋ 1 รู ที่มือขวากำปืนสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล๊อค กระสุนในรังเพลิงถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด มีหมอนโชกเลือดตกอยู่ข้างศพ 1 ใบ มีร่องรอยกระสุนปืนจ่อยิงจนทะลุ บนหัวเตียงนอนมีวิทยุสื่อสารวางอยู่ 1 เครื่อง

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบสมุนบันทึกที่ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ เขียนข้อระบายไว้ 3 หน้ากระดาษ โดยระบุถึงสาเหตุที่ต้องยิงตัวตายมาจากคำสั่งที่ถูกย้ายจากงานสายป้องกันและปราบปรามไปอยู่ในตำแหน่งงานสอบสวน อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ความอัปยศต่างๆ นานาในแวดวงสีกากี รวมทั้งปัญหาการวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง จนตำรวจดีๆ ต้องหมดหวังหมดกำลังใจ เจ้าหน้าจึงเก็บสมุดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล

จากการสอบสวนทราบว่าช่วงเกิดเหตุ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ออกเวรกลับจาก สภ.มาบอำมฤต แล้วเดินทางกลับเข้าบ้านหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เข้าไปเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียว โดยชั้นบนของบ้านปิดไฟมิดสนิท ขณะลูกสาวคนโตอายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.1 นั่งทำการบ้านอยู่บริเวณชั้นล่าง ส่วนภรรยาและลูกชายวัย 9 ขวบ เดินออกไปบ้านพี่ชายซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 400 เมตร ไม่นานมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่เสียงไม่ดังมากนักลูกสาวที่นั่งทำการบ้านอยู่เข้าใจว่าเป็นเสียงท่อรถจักรยานยนต์ ต่อมาจึงเอะใจว่าทำไม่พ่อปิดไฟในห้องและชั้น 2 บนบ้านทั้งหมดจนมืดสนิท จึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ให้รีบกลับมาดู จนเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปดูก็พบว่า ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ยิงตัวตายดังกล่าว

ขณะที่ นางแอนนา อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ตายกล่าวเสียงดังต่อหน้า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ถึงปมเหตุที่สามีตนเองยิงตัวตายว่ามาจากความเครียดในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา หลังมีคำสั่งย้ายสามีตนจากตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ไปอยู่ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน เป็นการย้ายตำรวจจากงานถนัดไปอยู่งานที่ไม่ถนัด ไม่เคยสอบถามใดๆ ทั้งสิ้น คิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ย้ายโดยรู้ถึงปัญหา ตนขอตัดขาดจากวงการตำรวจอย่างเด็ดขาดจะไม่ขอเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ยืนฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกล่าวปลอบใจและให้กำลังใจ

ทั้งนี้ นางแอนนากล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ปกติสามีตนเป็นคนรักครอบครัว สนุกสนานร่าเริงมีอัธยาศัยดีเพื่อนร่วมงานและชาวบ้านรัก แต่หลังจากมีคำสั่งย้ายช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา สามีตนกลายเป็นคนเครียดเก็บกดเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว และจะพูดจาตัดพ้อกับตนและเพื่อนๆ ทุกวันเกี่ยวกับตำแหน่งที่ถูกปรับย้ายว่าไม่ถนัดงานสอบสวน ตนฝากถามไปถึงระดับผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การโยกย้ายตำรวจแต่ละครั้งคิดจะย้ายใครไปอยู่ตรงไหนก็ได้ใช่ไหม โดยไม่เคยสอบถามผู้ที่ถูกย้ายว่ามีความสามารถด้านใด ทำงานอะไรได้บ้าง เคยรู้ปัญหาเหล่านี้ไหม วันนี้ลูกๆ ทั้ง 2 คนของตนต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็ก ขาดเสาหลักของครอบครัวไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ นั้น อดีตเป็นตำรวจชั้นประทวนยศจ่าสิบตำรวจ (จ.ส.ต.) ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ประจำอยู่ที่ สภ.มาบอำมฤต ต่อมาเรียนระดับปริญญาตรีจบคณะนิติศาสตร์ จากนั้นในปี พ.ศ. 2548 สอบติดนายตำรวจสัญญาบัตรในตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม (รอง สว.ป.)

จนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งโยกย้ายระดับ สว.รอง ถึง ผบก. ตามคำสั่งที่ 127/2562-139/2562 จำนวน 6,239 ตำแหน่ง โดยคำสั่งดังกล่าวได้โยกย้าย ร.ต.อ.พิเชษฐ์ รอง สว.ป. สภ.มาบอำมฤต ไปอยู่ในตำแหน่ง รอง สว. (สอบสวน) จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook