"เปิ้ล ไอริน" เล่าละเอียด วิญญาณหลุดออกจากร่าง 3 ครั้ง ตัดใจเขียนพินัยกรรมสั่งเสีย

เพราะอยู่ดีๆ เซ็กซี่สตาร์ทรงโต เปิ้ล-ไอริณ ศรีแกล้ว ก็ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านอินสตาแกรม @ple_irin888 ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายกับว่าตั้งใจจะฝากคำสั่งเสีย จนแฟนๆ พากันเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่

ล่าสุดบรรดาสื่อได้มีโอกาสเจอกับ เปิ้ล ไอริณ ในงาน ธรรมะจัดสรร จักรวาลจัดเรียง จึงได้เข้าไปสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งนอกจากเธอจะชี้แจงว่าสิ่งที่เธอโพสต์ไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องน่าเป็นห่วง แต่เพียงแค่เธออยากที่จะจัดสรรสมบัติที่มีอยู่ให้มีประโยชน์สูงสุดเท่านั้น

เปิ้ล ไอริณ ก็ยังเล่าต่อว่า อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจแบบนี้ ก็เป็นเพราะเธอเคยถอดกายละเอียดออกจากกายหยาบมาแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งหากวันหนึ่งเธอหลับไปแล้วไม่ตื่นขึ้นมา ก็อยากให้ทุกคนช่วยทำตามคำสั่งเสียของเธอด้วย

ทำพินัยกรรมสั่งเสียไว้ในอินสตาแกรม ?
“จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย คนที่ตามอินสตาแกรมเปิ้ลปกติจะเห็นเปิ้ลแชร์แบ่งปันสิ่งของอยู่แล้ว แจกของใช้ต่างๆ ของเปิ้ล คือเรามีความรู้สึกว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างจะเห็นคุณค่าของของทุกอย่างที่เราซื้อมา ตัวเปิ้ลเองก็หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา มันเลยรู้สึกว่ามันมีค่าสำหรับเรา วันหนึ่งเปิ้ลเดินเข้าไปในห้องเก็บกระเป๋า มองไปมองมาเราก็รวบรวมราคาดู รวมไปรวมมามันซื้อรถได้เลยนะ”

“เราเลยมาคิดว่าทำยังไงถ้าสมมติว่าเราไม่อยู่บนโลกนี้แล้วของพวกนี้มันอาจจะเป็นของที่ไร้คุณค่าไปเลยก็ได้ เพราะคนที่อยู่รอบๆ ตัวเราเขาไม่ได้ใส่ใจกับของพวกนี้อยู่แล้ว เลยคิดว่าเราอยากจะแบ่งปันให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีกว่า เปิ้ลเห็นญาติเปิ้ลทุกคนเขาจากไปกันง่ายๆ อย่างคุณตา วันหนึ่งเปิ้ลเปิดประตูเข้าไปหาแกก็หลับและจากไปเลย น้องสาวเปิ้ล แม่เปิ้ล คุณยายเปิ้ลอยู่ๆ วันหนึ่งเขาก็จากไปโดนไม่ได้ร่ำลาอะไรกันเลย แล้วทิ้งสมบัติ ทิ้งมรดกเอาไว้เต็มเลย เราเลยรู้สึกว่าวันหนึ่งเราอยากจะฝากเพื่อนๆ เพราะตัวเปิ้ลเองบนโลกนี้ เปิ้ลมีตัวเปิ้ลอยู่คนเดียวในโลกจริงๆ เรายังไม่รู้เลยว่าใครจะมาดูแลหมาแมวเรา เลยคิดว่าอยากจัดสรรสมบัติที่เราหามาทั้งหมดทั้งชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้นเอง”

มูลค่ากระเป๋าและของต่างๆ ของเราเยอะขนาดไหน ?
“วันนั้นที่นับรวมๆ กันแล้วเกือบ 2 ล้าน ชาแนล 6 ใบ แอร์เมส 2 ใบ ซึ่งมันซื้อบ้านได้เลยนะ แต่เพื่อนเปิ้ลที่เปิ้ลคบอยู่รอบตัวไม่มีใครเห็นว่ามันมีประโยชน์เลย เลยคิดว่าถ้าวันหนึ่งมันเป็นของที่มีมูลค่ากับใครหลายๆ คนแล้วเอาไปประมูลกันแล้วได้เงินก้อนนั้น เปิ้ลอยากให้พี่ๆ นักข่าวช่วยจัดการเลย ฝากทุกคนไว้เลยนะคะ”

ไม่ทำเป็นพินัยกรรมจริงจังไว้เลยล่ะ ?
“มีค่ะ หลังจากที่เราโพสต์ข้อความนั้นเราก็โทรไปคุยกับทนายว่าเปิ้ลมีเจตนารมณ์แบบนี้ช่วยจัดการให้เปิ้ลด้วย”

โพสต์สั่งเสียของ เปิ้ล ไอริณ

อะไรที่เป็นจุดที่เราคิดเรื่องนี้ขึ้นมา ?
“คิดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่างการที่จะซื้อกระเป๋าแต่ละใบมูลค่ามันสูง ทุกครั้งที่จะจ่ายเงินเราก็จะคิดว่าใบไหนที่มันขายได้ราคา เผื่อวันหนึ่งที่เราไม่อยู่แล้วจะได้เอาไปสร้างประโยชน์ได้ คือคิดตั้งแต่เริ่มซื้อเลย เราคิดอย่างนี้ของเรามาตลอดจริงๆ"

มันมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราคิดมาถึงจุดนี้ ?
“เอาจริงๆ เปิ้ลกลัวคนจะว่าเปิ้ลเพี้ยนนะคะ ตัวเปิ้ลเองเคยมีประสบการณ์ถอดกายละเอียดออกจากกายหยาบของตัวเองมาแล้ว 3 ครั้ง เปิ้ลเคยไปทอล์กโชว์รายการหนึ่งมาด้วย เราเคยถอดจิตขนาดที่ว่าเราไปหาผู้จัดการเราที่ตอนนั้นเราอยู่โรงพยาบาล แล้วตอนนั้นเราก็เอ๊ะทำไมเราถึงอยู่ที่โรงพยาบาล 3 ครั้งมาแล้วที่เปิ้ลหลับไปเฉยๆ แล้วเปิ้ลก็ตื่นขึ้นมา เลยรู้สึกว่าจริงๆ คนเราการตายมันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องที่มันไม่ปกติก็คือเราสร้างสินทรัพย์ที่มันฟุ่มเฟือยเยอะแยะมากมายเลย แต่เราไม่รู้ว่าเราจะจัดการมันยังไงเวลาที่เราไม่อยู่แล้วเท่านั้นเอง”

เราไม่ได้ฝัน ?
“มันเกิดขึ้นจริงๆ ถึง 3 ครั้งมาแล้วในชีวิต สาบานได้ เปิ้ลไม่ได้โกหก ครั้งแรกเปิ้ลหลับไป ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นตัวเองนอนอยู่ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ปราณบุรี เปิ้ลไปทำบุญและโชว์ตัว ตอนประมาณตี 3-4 เรารู้สึกว่าตัวเราลอยขึ้นไปจนติดเพดานเราก็ตกใจ ก็เลยได้เห็นตัวเราเองตอนอยู่ที่เตียง เราก็ตกใจ เราก็พยายามดันตัวเองเพื่อกลับมาที่ตัวเองใหม่ พอกลับมาได้เราก็ตกใจ รีบลงไปที่ล็อบบี้ เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ประมาณช่วงตี5 เขาสแตนบายนักแสดงเพราะจะมีการตักบาตรพระ 100 รูป เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ ผู้จัดการเปิ้ลก็อยู่ เราก็ถามว่าทำไมเรามารอตั้งแต่ตีสามครึ่ง ก็บอกเขาว่าเรารู้สึกเหมือนถอดออกมาจากของตัวเองได้”

“ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในวันปีใหม่ในปีถัดไป แล้วยังมามีครั้งที่ 3 อีก จนเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกตินะกับการที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราต้องการคือเราอยากจะฝากฝังสิ่งที่เรามีอยู่เท่านั้นเอง เปิ้ลมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเปิ้ลมันปกติ ด้วยเปิ้ลเป็นคนสวดมนต์ไหว้พระทุกคืนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว นั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันไม่เคยเว้นสักคืนเลย เราปฎิบัติมาอย่างนี้ แล้วเราก็ศึกษามาอย่างละเอียดแล้วว่า คนเราสามารถแยกกายละเอียดออกจากกายหยาบได้ มันเป็นเรื่องปกติ”

มันไม่เหมือนในละครไปเหรอ เดี๋ยวคนจะมองว่าเราดูละครเยอะไป ?
“ก็ไม่น่าจะใช่ละคร เราอ่านและศึกษาเรื่องนี้มาจนละเอียดแล้ว เพราะมันเกิดขึ้นกับเราถึง 3 ครั้งแล้วด้วย การที่กายละเอียดแยกจากกายหยาบได้เราสามารถจะไปที่ไหนก็ได้ ครั้งที่ 3 เปิ้ลกลับกลางวันอยู่แล้วเปิ้ลก็ยกแขนขึ้นมา ปรากฎว่าแขนเรามันยังอยู่ที่เดิม เรามีความรู้และเรามีประสบการณ์มา 2 ครั้งแล้ว เราก็เลยคิดว่าครั้งนี้เราจะลองไปที่ไหนดู ก็เลยอยากไปหาแฟนเก่าเรา ตอนนั้นเราอยู่ที่ลอนดอน เราก็นึกภาพว่าเราไปลอนดอนดีกว่า แล้วก็หลับตาลง บริเวณตรงที่เขาเรียกกันว่าตาที่ 3 บริเวณหน้าผากมันก็จี๊ดๆ แล้วเราก็ได้ไปยืนอยู่หน้าบิ๊กเบนจริงๆ แต่มันเป็นช่วงกลางวันแล้วในตอนนั้นมีคนเดินไปมาเยอะแยะเลย สักพักเราก็รู้สึกว่าตัวร้อน แสบตัวมากเหมือนตัวจะไหม้เลย ขอกลับดีกว่า ความคิดตอนนั้นเราคิดว่าเราตกนรกหรือเปล่า แล้วก็คิดว่าก่อนกลับเราขอไปหาผู้จัดการเราก่อนดีกว่า เราก็นึกถึงหน้าเขา ตรงหน้าผากก็แสบอีก ปรากฎว่าลืมตามามันเป็นโรงพยาบาล เห็นทุกอย่างเป็นสีเขียวหมดเลย เราก็ตกใจหรือว่าเรามาห้องดับจิต เราคงไม่เล่นแล้ว เรากลัว กลับดีกว่า แล้วพอเปิ้ลตื่นมาปุ๊บเปิ้ลก็โทรหาแฟนเก่าเปิ้ลบอกว่าเมื่อกี้ออกมาจากร่างได้อีกแล้ว และก็ไปลอนดอนด้วย รู้สึกร้อนแสบตัวมาก แฟนเก่าเปิ้ลก็บอกว่าตอนนี้ที่ลอนดอนอากาศร้อนมาก ตัวเขายังเป็นสีน้ำตาลเลยเพราะว่าแดดจัดมาก”

คนที่เราไปหาเขารู้สึกได้ไหมว่าเราอยู่ตรงนั้น ?
“น่าตกใจ ตรงผู้จัดการเปิ้ลตอนที่เปิ้ลโทรหาเขา เขาบอกว่าเปิ้ลรู้ไหมตอนนี้เบนซ์ไส้ติ่งแตกอยู่ที่โรงพยาบาล”

ทุกวันนี้ยังถอดวิญญาณได้อยู่ไหม ?
“เราไม่ได้ว่าอยากจะถอดหรือไม่ถอด เรามองว่าทุกอย่างมันเป็นอนิจจัง อะไรก็เกิดขึ้นได้ เกิดวันหนึ่งถ้าเปิดหลับไปแล้วไม่ตื่น ก็ขอฝากประมูลของเปิ้ลด้วยก็แล้วกันนะคะ”

เปิ้ล ไอริณ เล่าประสบการณ์ถอดจิตออกจากร่างถึง 3 ครั้ง

ทำไมถึงเลือกเป็นประมูลของ ?
“ตอนนี้เปิ้ลมาลองไลฟ์สดขายเสื้อผ้าดู มันเกิดจากการที่ของเราแน่นตู้มาก ไลฟ์เล่นๆ ครั้งแรกเปิ้ลได้เงินมาประมาณเกือบแสนเเลยรู้สึกสนุก ไปๆ มา ๆ บางชิ้นของเราที่มันแพง มีมูลค่าพอจะขายหลายคนก็บอกประมูลเถอะพี่ทุกคนอยากร่วมสนุก เราก็เลยมองว่าวันหนึ่งที่เราไม่อยู่แล้วทุกคนจะได้ร่วมสนุกกันอีก”

ด้วยความโสด ตัวคนเดียวเลยคิดว่าเตรียมสั่งลาไว้ดีกว่า ?
“ใครบอกว่าเปิ้ลโสดค่ะ ก็มีคุยๆทกันบ้างไม่ได้โสดสนิท 100 เปอร์เซ็นต์”

มันเหมือนการสั่งเสีย บางคนเขาก็ถือเรื่องพวกนี้ว่าไม่ควรจะเขียน เหมือนมันจะเป็นลางไม่ดี ?
“มันเป็นการสั่งในเรื่องที่ดี เจตนารมณ์ของเปิ้ลต้องการนำเงินไปช่วยเหลือ 4 มูลนิธิ ได้แก้มูลนิธิสิทธิสตรี เด็กกำพร้า สัตว์จรจัด-พิการ แล้วก็โรงพยาบาลสงฆ์ เปิ้ลจำได้ขึ้นใจเพราะเปิ้ลมักจะพูดสั่งดีเรื่องนี้ไว้กับคนรอบข้างเปิ้ลเสมอ ไม่ใช่การสั่งเสียแต่เป็นการสั่งดีค่ะ แล้วตอนนี้ก็ได้ทำพินัยกรรมที่เขียนเป็นรูปร่างไว้เรียบร้อยแล้วฝากทนายความไว้ แต่เปิ้ลกลัวว่าจะไม่มีคนจัดการเรื่องให้เปิ้ลเลยบอกผ่านช่องทางของเปิ้ลด้วยก็เท่านั้นเอง”

เราจะไม่มีลูก ไม่มีสามีแล้ว ?
“ไม่ได้กะเกณฑ์อะไรในชีวิตทั้งสิ้น คิดว่าอยากทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ก็โอเคแล้ว ถึงแม้จะมีสามี สามีเปิ้ลก็ต้องดูแลเปิ้ลได้ แล้วของเปิ้ลจะต้องไม่ขยับไปไหน ต้องอยู่ตรงนั้น มันเป็นสิ่งที่เปิ้ลตั้งใจไว้แล้ว”

>> "เปิ้ล ไอริณ" โพสต์คล้ายสั่งเสีย ให้แบ่งทรัพย์สิน หากไม่มีชีวิตอยู่

>> "เปิ้ล ไอริณ" แชร์อุทาหรณ์ ซื้อรถหรูมีแต่ปัญหา หมดแล้วความอดทน

>> เต็มตา "เปิ้ล ไอริณ" โชว์บั้นท้ายเด้งดึ๋งในถ้ำน้ำแข็ง กว่าจะได้รูปนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย