เตชินท์ เนรคุณ!!! สาวกที่เคยปั้นเตรียมแฉสั่งสอน

ร้อนๆ หนาวๆ จนนั่งไม่ติดเบาะซะแล้ว เมื่อ "แป๋ง-เตชินท์ ชยุติ" หนุ่มดัชชี่ปี 2007 ศิลปินวัยรุ่นที่กำลังมาแรงอยู่ขณะนี้ตอนนี้งานเข้าซะแล้ว เพราะจากอดีตเด็กบ้านนอกคอกนา จาก จ.ระนองและมีไฟฝันอยากจะโด่งดังในวงการบันเทิงเพราะมีครูเพลงคอยสั่งสอนและ นำมาผลักดันให้เป็นศิษย์นัมเบอร์วัน แถมยังจะเตรียมฝากผีฝากไข้ให้ดูแลกิจการร้องเพลงก็แทบจะฝันสลาย เพราะล่าสุดหลังจากตะกายดาวสำเร็จก็เจอข้อหาเนรคุณลืมบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนซะแล้ว

จากเด็กต่างจังหวัดที่หนีบอีเตะเข้ากรุงเทพฯ โดยขณะพ่อมีอาชีพต่อยมวย และมีแม่เป็นคนขายปลาในตลาด มีความมุ่งมั่นอยากจะตะกายดาวเพื่อไม่ให้น้อยหน้าเพื่อนๆ ที่บ้าน จนกระทั่งมีคนรู้จักชักนำให้เข้ามาหาประสบการณ์ในกรุงเทพฯ โดยนำมาฝากผู้มีพระคุณซึ่งเป็นครูเพลง ผู้หล่อหลอมให้โดยนำมาฝึกร้องเพลงที่สถาบันแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่อายุประมาณ 13 ปี จนเขาสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากกทม.

พอตบเท้าเข้าเวทีประกวดนมเปรี้ยว ชื่อของแป๋งก็เลือนหายจนคนในละแวกบ้าน (ชื่อที่ไม่กล้าใช้ในวงการบันเทิงเพราะกลัวจะถูกหาว่าเชย) พร้อมกันนี้พอประกวดสู่เวทีนมเปรี้ยวก็ถูกขัดเกลาซะใหม่จนแทบจะจำไม่ได้เลย จากนั้นก็ถูกผลักดันให้ก้าวสู่ถนนสายมายาอย่างเฉิดฉาย แต่อนิจจา ความลับไม่มีในโลกฉันใดก็ฉันนั้น เพราะจากแหล่งข่าวที่ได้รับมานั้น "เตชินท์" หรือ "แป๋ง" ที่ตอนนี้ก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงโด่งดังแล้วเมื่อเจอผู้มีพระคุณแม้แต่เดินผ่านกันยังทำเมินไม่รู้จักด้วย

จากเด็กชาย "แป๋ง" ที่ดูใสซื่อไม่มีพิษมีภัยกับใครๆ ก็ออกแววไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ เนรคุณคนกับบรรดาผู้ให้การสนับสนุนเขาในด้านต่างๆ โดยเฉพาะครูผู้สอนตลอดจนพี่เลี้ยงที่ดูแลตั้งแต่เท้ายันหัว พร้อมกับนักปั้นดังๆ อีกหลายคนที่เคยดูแลที่สำคัญเวลาให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ที่ร้องเพลงเป็นและเล่นหูเล่นตาได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่ามีพ่อแม่คอยหนุน หลังและสั่งสอน

แหล่งข่าวคนเดิมยังย้ำอยู่ว่าคนที่สั่งสอนคือครูที่อยู่แถวแจงวัฒนะที่ได้ถูกพร่ำสอนจนมีความสามารถรอบด้าน จนอายุครอบ 20 ปีก็เตรียมพร้อมที่จะหาประสบการณ์ และด้วยความสั่งสมฝีมือมานานเขาก็สามารถเป็นที่หนึ่งได้ไม่ยาก แต่แป๋ง ซึ่งพี่ๆ ต่างรักและเอ็นดูก็หลบหน้าหนีตลอด แถมยังเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพื่อหนีอดีตทุกๆ อย่าง

พอ "แป๋ง" เข้าไปทำเพลงกับค่ายดังแห่งหนึ่ง จากแหล่งข่าววงในก็บอกเล่าทันทีว่า "เพื่อเป็นคนใหม่ทำให้ตัวเองดูดีมีชาติตระกูลขึ้น มาออกซิงเกิ้ลผู้คนต่างเห็นแล้วน่ารักน่าเอ็นดู แต่ความจริงเบื้องลึกสุดแสนจะรับไม่ได้ หลังดังแล้วโรงเรียนที่เคยสอนร้องเพลงครั้งแรกในชีวิตเขายังไม่เคยเอ่ยถึงด้วยซ้ำ แม้จะเข้าไปขอบคุณซักครั้งยังไม่มี.... ยังงี้สิน่ะที่เขาว่าดังแล้วถีบหัวส่งหรือเปล่า"

นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของคน "บันเทิง" ที่จะทำอะไรก็ควรจะคิดหน้าหลังและไม่ลืมผู้มีพระคุณก็น่าจะดี เพราะล่าสุดแว่วมาว่ากำลังจะมีการปล่อยภาพสั่งสอนมาอีกระลอกให้เตือนสติและ เป็นบทเรียนไว้ด้วย