ญี่ปุ่นเปิดการล่าวาฬเพื่อการพาณิชย์อีกครั้ง หลังระงับมากว่า 3 ทศวรรษ
ญี่ปุ่นเริ่มฤดูล่าวาฬ ฝ่ายต่อต้านชี้วาฬหายากเสี่ยงสูญพันธุ์ ด้านฝ่ายหนุนแจงเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ของประเทศ ขอต่างชาติอย่าวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศญี่ปุ่นเปิดให้มีการล่าวาฬเพื่อการพาณิชย์เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (1 ก.ค.62) เป็นต้นไป ทำให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย โดยภายหลังรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศถอนตัวจากสมาชิกคณะกรรมาธิการวาฬระหว่างประเทศ (IWC) กลุ่มความร่วมมือนานาชาติที่มีมติระงับการล่าวาฬเชิงการค้ามานานกว่า 3 ทศวรรษ แต่อนุญาตให้ล่าวาฬเพื่อการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ได้ โดยญี่ปุ่นใช้ข้อยกเว้นนี้ในการล่าวาฬมาโดยตลอด ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนวาฬที่ถูกล่าประมาณ 200-1200 ตัว และมีการนำเนื้อวาฬในโครงการดังกล่าวออกจำหน่ายด้วย ทำให้บรรดานักอนุรักษ์วิจารณ์ตำหนิโครงการนี้อย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้หลังจากญี่ปุ่นประกาศให้มีการล่าวาฬเชิงพาณิชย์อีกครั้ง ทำให้กลุ่มพิทักษ์วาฬ และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม เรียกร้องให้ทางการญี่ปุ่นเห็นแก่วิกฤติเสี่ยงสูญพันธุ์ของวาฬหลายชนิด และเร่งระงับการล่าวาฬเพื่อการค้าโดยเร็ว โดยให้เหตุผลว่า การกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อวาฬที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยพบในน่านน้ำญี่ปุ่น ครอบคลุมถึงวาฬสีน้ำเงิน วาฬหลังค่อม วาฬบรูด้า และวาฬหัวทุย
ขณะเดียวกันชาวญี่ปุ่นบางส่วนชื่นชมต่อนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าการล่าวาฬ และการรับประทานเนื้อวาฬ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นที่ควรอนุรักษ์ และต่างชาติไม่ควรแทรกแซง
อย่างไรก็ดี มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ระบุว่า การล่าวาฬและบริโภคเนื้อวาฬในญี่ปุ่นเพิ่งจะมานิยม และมีตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นจากภาวะการขาดแคลนอาหาร ภายหลังช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยช่วงดังกล่าว เนื้อวาฬได้กลายมาเป็นเนื้อสัตว์ชนิดหลักที่มีจำหน่ายในท้องตลาด แต่หลังจากนั้นความนิยมบริโภคเนื้อวาฬในหมู่ชาวญี่ปุ่นก็กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า ความนิยมบริโภคเนื้อวาฬมีเพียง 0.1% ของเนื้อสัตว์ทั้งหมดที่มีจำหน่ายในญี่ปุ่น
สำหรับนโยบายการกลับมาล่าวาฬอีกครั้ง เกิดขึ้นภายหลังจากญี่ปุ่นประกาศถอนตัวออกจากคณะกรรมการว่าด้วยการล่าวาฬระหว่างประเทศ (IWC) ที่เป็นสมาชิกมานานตั้งแต่ปี 1951 เพื่อไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของ IWC ต่อไป โดยให้เหตุผลว่า ทางคณะกรรมการขาดความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายสู่การสนับสนุนให้เกิดการล่าวาฬเพื่อการค้าอย่างยั่งยืน แต่กลับไปให้ความสนใจต่อจำนวนตัวเลขวาฬซึ่งจะได้รับการอนุรักษ์คุ้มครองมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้จะอนุญาตให้ชาวประมงญี่ปุ่นล่าวาฬภายในเขตน่านน้ำญี่ปุ่นและเขตเศรษฐกิจจำเพาะเท่านั้น แต่จะยุติการล่าวาฬในแถบมหาสมุทรแอนตาร์กติกและซีกโลกใต้ลงอย่างสิ้นเชิง