สนธิรัตน์ยอมแล้ว! ลั่นไม่คุมกระทรวงพลังงาน เสียใจพลังประชารัฐร้าวฉาน

สนธิรัตน์ยอมแล้ว! ลั่นไม่คุมกระทรวงพลังงาน เสียใจพลังประชารัฐร้าวฉาน

สนธิรัตน์ยอมแล้ว! ลั่นไม่คุมกระทรวงพลังงาน เสียใจพลังประชารัฐร้าวฉาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าววันนี้ (1 ก.ค.) ว่าไม่เคยอยากเป็นและไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กรุงเทพมหานคร และกลุ่มสามมิตร เตรียมเสนอญัตติในที่ประชุมพรรคเพื่อขับไล่ตนออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค เพราะสงสัยว่านายสนธิรัตน์ อยู่เบื้องหลังการขับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรค พ้นจากรายชื่อตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

>> กลุ่มสามมิตรกร้าวขอโควตารัฐมนตรีตามเดิม เตรียมไล่ "สนธิรัตน์" พ้นเลขาธิการพรรค

>> เปิดชื่อ 31 ส.ส. กลุ่มสามมิตร ไล่สนธิรัตน์พ้นเลขาธิการพลังประชารัฐ หลังแย่งเก้าอี้สุริยะ

ลั่นทุ่มเทตั้งแต่เข้าสู่วงการการเมือง

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมือง ตนมีความทุ่มเทตั้งใจรับใช้ชาติบ้านเมืองในตำแหน่งต่างๆ โดยเมื่อได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐก็ตาม

เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ตนได้มุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าให้หลุดพ้นจากปัญหาที่สะสมมา ทำงานอย่างเต็มความสามารถและได้มุ่งมั่นสร้างประโยชน์ให้ตกกับประชาชนในหน้าที่นั้นๆ

ส่วนประเด็นปัญหาความขัดแย้งในการเข้าดำรงตำแหน่งในกระทรวงที่กล่าวถึงขณะนี้นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ที่จะเลือกกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งในการทำงาน และพร้อมทำงานในกระทรวงที่ได้รับมอบหมายหากเห็นว่าเหมาะสม

เสียใจพรรคมีปัญหา

ส่วนกรณีกระแสข่าวที่จะให้ไปดำรงตำแหน่งในกระทรวงพลังงาน ตนเองมีความรู้สึกเสียใจในปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ได้เข้าไปมีส่วนรับรู้หรือเกี่ยวข้องกับการดำรงตำแหน่งแต่ประการใด

หลังจากการเคลื่อนไหวนี้ นายสนธิรัตน์หวังว่าทุกสิ่งจะคลี่คลายไปในทางที่ดี เพื่อทุกคนจะได้ร่วมมือกันทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป

นายสนธิรัตน์ บอกอีกว่า ตนพร้อมรับฟังความเห็นต่างและเคารพเสียงประชาชนทุกคะแนนเสียง โดยเชื่อว่าขณะนี้ประชาชนอยากเห็นการเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ และเพื่อให้เกิดการทำงานที่ราบรื่น จึงเห็นว่าพรรคควรเดินหน้าและร่วมมือกันพัฒนานโยบายพัฒนาประเทศทุกด้านเพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจและเชื่อมั่นทางการเมืองและเศรษฐกิจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook