หนีไปไม่ถึงกรุง สกัดรถทัวร์จับฆาตกร บีบคอฆ่าเมียภูเก็ต แค้นที่แอบมีชู้

หนีไปไม่ถึงกรุง สกัดรถทัวร์จับฆาตกร บีบคอฆ่าเมียภูเก็ต แค้นที่แอบมีชู้

หนีไปไม่ถึงกรุง สกัดรถทัวร์จับฆาตกร บีบคอฆ่าเมียภูเก็ต แค้นที่แอบมีชู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจทางหลวงสกัดรถทัวร์โดยสารมุ่งหน้าเข้าเมืองกรุง เจอตัวผู้ต้องหาหนีคดีฆ่าบีบคอเมียที่ภูเก็ต สารภาพเตรียมใจจะถูกจับกลางทาง ทำไปเพราะหึงหวง-อีกฝ่ายมีชายชู้

เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจรถทัวร์โดยสารประจำทาง หลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ว่า ผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมภรรยาชาวภูเก็ต น่าจะพยายามหลบหนีออกจากพื้นที่ คาดว่าน่าจะขึ้นรถทัวร์โดยสารมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เตรียมพร้อมที่ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 309 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ฝั่งตรงข้ามกับสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์

สำหรับผู้ต้องสงสัยก็คือ นายเอก อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ฝนทิพย์ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต ที่เจ้าหน้าที่พบเป็นศพถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้น่าจะเป็นสามีของผู้เสียชีวิตเอง

จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า นายเอก น่าจะขึ้นรถทัวร์โดยสารประจำ กรุงเทพ-หาดใหญ่ จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงช่วยตรวจสอบและสกัดกั้นคนร้ายเอาไว้

>> ฆ่ารัดคอแม่บ้านสาวประจำแมนชั่น พยานเห็นอดีตผัวโผล่มาก่อนพบศพ

ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาที่รถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวต้องแวะที่จุดพักรถ ฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังขึ้นตรวจค้นพบ ปรากฏว่าพบ นายเอก ผู้ต้องสงสัยได้นั่งโดยสารมากับรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าวจริง จึงได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยลงจากรถมาสอบสวนที่สถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ โดย นายเอก ยินยอมลงจากรถแต่โดยดี

ทั้งนี้ นายเอก ได้ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาจนเสียชีวิต โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ได้รู้ระแคะระคายว่าภรรยาแอบนอกใจและคบหาชายอื่นที่รู้จักกันผ่านทางโซเชียลมีเดีย อีกทั้งภรรยายังบล็อกเฟซบุ๊กของตน เพื่อไม่ให้รู้ถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ

ในคืนวันเกิดเหตุตนได้ขอดูโทรศัพท์ของภรรยา แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้ดู ด้วยความโมโหและโทสะ ตนจึงทำร้ายภรรยาและใช้มือบีบคออย่างแรง กระทั่งภรรยาสลบแน่นิ่งไป หลังจากนั้นตนจึงใช้เชือกไนล่อนขนาดเล็กรัดคอภรรยาซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่าภรรยาเสียชีวิตลงแล้ว

ภายหลังเกิดเหตุ ตนได้พาลูกๆ ทั้งสองคนไปฝากไว้กับแม่ของตนใน จ.ตรัง โดยฝากให้แม่ช่วยดูแลลูกๆ พร้อมทั้งบอกกับแม่ว่ารู้สึกเสียใจกับที่ทำลงไป และคงไม่มีโอกาสดูแลแม่กับลูกๆ อีกต่อไปแล้ว จากนั้นตนมาขึ้นรถทัวร์โดยสารประจำทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหวังหลบหนี แต่ก็เตรียมใจเอาไว้บ้างว่า อาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ระหว่างทาง และก็มาถูกจับจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บ้านมาบอำมฤต จ.ชุมพร มารับตัว เพื่อส่งต่อให้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook