เด็กนักเรียนช็อก เจอภารโรงผูกคอตายทิ้งร่างห้อยริมหน้าต่างอาคารเรียน
เด็กนักเรียนวิ่งมาเอากุญแจถึงกับผงะ พบภารโรงผูกคอเสียชีวิตร่างห้อยโตงเตงริมหน้าต่างอาคารเรียน คาดเครียดปัญหาส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.45 น. สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุคนผู้คอเสียชีวิตภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง หมู่ 7 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม ที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา
บริเวณห้องพักภารโรงด้านในสุดของตัวอาคาร พบศพผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายทองล้วน อายุ 41 ปี ภารโรงของโรงเรียน สภาพศพสวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอตนเองกับคานหน้าต่างข้างห้องห้อยโตงเตงออกไปอยู่นอกหน้าต่าง ลิ้นจุกปาก มีรอยเขียวช้ำที่ลำคอ เนื้อตัวเริ่มซีดขาว
กู้ภัยช่วยกันแก้เชือกแล้วนำร่างลงมาชันสูตรพลิกศพด้านล่าง ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนนำร่างส่งผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีนักเรียนหญิงชั้น ป.4 วิ่งมาหานายทองล้วนซึ่งเป็นภารโรงที่ห้องพักที่เกิดเหตุ เนื่องจากจะมาขอกุญแจไปเปิดห้องเรียน แต่เด็กก็ต้องตกใจสุดเมื่อพบว่าภารโรงได้ผูกคอเสียชีวิตกับคานหน้าต่างข้างห้อง จึงรีบวิ่งไปบอกกับครูให้ทราบเรื่องและแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
จากการสอบถาม นางจั่น อายุ 45 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูร่างของน้องชายถึงกับร่ำไห้เสียใจจนเป็นลมล้มพับ จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาปลอบให้หายคลายเศร้า พร้อมเปิดเผยว่า นายทองล้วน น้องชาย เป็นภารโรงอยู่ที่โรงเรียนนี้มานานแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยมีภรรยาและมีลูกชายด้วยกัน 2 คน แต่ก็ได้เลิกรากันไป โดยปกติน้องชายจะนอนเฝ้าที่โรงเรียนทุกวันและแวะไปหาตนที่บ้านบ้างเพื่อพูดคุยและปรับเรื่องทุกข์ใจต่างๆ
ส่วนสาเหตุทราบว่าช่วงนี้น้องชายมีปัญหาส่วนตัวนัดตนเองว่าจะต้องไปชี้แจงปัญหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ สภ.พรหมพิราม วันนี้โทรหาหลายครั้งก็ไม่รับสายจนมาทราบข่าวว่าน้องชายคิดสั้นผูกคอเสียชีวิตไปแล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบกระดาษเขียนข้อความด้วยปากกาสีแดงขอโทษพี่สาว พร้อมฝากให้ดูแลลูก คาดว่าน่าจะเป็นลายมือของผู้ตายเองจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนถึงสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนศพจะมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป