ตำรวจโชว์จับข้ามคืน "โจรขี้คุก" ประกบต่อย-ถีบสาวตกทุ่งนา ชิงไอโฟน
ตำรวจบึงกาฬตลบหลังโจรขี้ขโมย หลอกซื้อโทรศัพท์ไอโฟนที่เพิ่งฉกปล้นมาจากนักศึกษาสาวฝึกงาน ต่อยท้องจุก ซ้ำยังถีบรถตกทุ่งนา เหยื่อสาวขอบคุณจับได้เพียงแค่ข้ามคืน
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ได้แถลงข่าวจับกุม นายกู้เกียรติ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ ภายหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชาติชาย พัฒนาสุข รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.หาญชนะ พรมดี สว.สส.พ.ต.ต.ภูวนาถ อนันต์เอื้อ รอง.สว.สส.นำกำลังเข้าตรวจสอบตามร้านขายและซ่อมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะนำโทรศัพท์ไอโฟน 6s ของ น.ส.ชนิดา อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่มาฝึกงานที่ธนาคารออมสิน ไปแก้ไขและซ่อม หลังจากก่อเหตุชิงทรัพย์ไป
นอกจากนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโจโก้ ที่คนร้ายทำตกหล่นในที่เกิดเหตุได้ โดยนำไปกู้ข้อมูลคืน เนื่องจากโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวพลัดตกน้ำในทุ่งนา และโทรศัพท์เครื่องนี้มีชื่อ น.ส.บุญไทย อายุ 24 ปี แจ้งความเอาไว้ หลังจากถูกคนร้ายชิงโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนผ่านมา
หลังจากทราบเบาะแสคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง จึงได้แกะรอยตามโทรศัพท์จนทราบแนะชัดว่า คนร้ายก็คือ นายกู้เกียรติ ซึ่งพบว่ามีประวัติติดยาเสพติด เคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ และเคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ท้องที่ สน.พลับพลาไชย หลังออกจากคุกก็มาอาศัยอยู่ที่บ้านและก่อเหตุชิงทรัพย์อีกครั้ง
หลังทราบตัวแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนล่อซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6s ของผู้เสียหายที่ถูกขโมยไป โดยคนร้ายตกลงราคาซื้อขายที่ 8,000 บาท โดยนัดรับเงินและมอบโทรศัพท์กันระหว่างทางไปบ้านหนองสวรรค์ จากนั้นได้ให้ชุดสืบสวนดักรออยู่ตามเส้นทางที่คนร้ายนัดเอาไว้
กระทั่ง นายกู้เกียรติ ขี่รถจักรยานยนต์ไม้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมา เป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุกับเหยื่อรายอื่นๆ เจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวจึงได้โบกมือให้หยุดรถ ก่อนจะแสดงตัวเข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้ทันที นายกู้เกียรติ ได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ทั้ง 2 คดี
โดยผู้เสียหายทั้งสองได้เดินทางมาชี้ตัวคนร้ายหลังจากทราบข่าว ขณะที่ผู้ต้องหาเล่าว่ามักมีพฤติการณ์ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามผู้เสียหายจากในเมือง เพื่อรอจังหวะไปที่ลับตาคน เมื่อสบโอกาสก็จะเร่งเครื่องยนต์ตามประกบ และถีบรถทำร้ายทันที ก่อนจะชิงทรัพย์สินมา เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์และทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ น.ส.ชนิดา ผู้เสียหาย ได้เปิดโชว์บาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ข้างและแขนให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า หลังจากเลิกงานก็ขี่รถกลับบ้านตามปกติ ไม่คิดว่าคนร้ายจะสะกดรอยตามมา เมื่อถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายชกเข้าที่ท้อง 2 ครั้ง ก่อนจะถีบซ้ำ ทำให้รถล้มเสียหลักลงทุ่งนาข้างทาง
จากนั้นคนร้ายยังใช้มือทุบตีซ้ำเข้าที่ศีรษะ ทำให้หมวกกันน็อกหลุดกระเด็นออก และจึงชิงกระเป๋าสะพายหลบหนีไป ตนต้องขอขอบคุณ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผู้กำกับฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ที่ใส่ใจติดตามตัวคนร้ายมารับโทษได้ทันท่วงที เพียงแค่ข้ามคืนเท่านั้น