สาวพนักงานขายวัย 19 ปี ถูกหัวหน้าหื่นลวงข่มขืน แถมขู่แฉคลิปลับ

พนักงานขายสาว 19 ปี สุดทนแจ้งจับหัวหน้าหื่นลวงข่มขืน พร้อมขู่ถ้าขัดขืนจะเอาคลิปลับมาแฉ แม่เหยื่อช็อกไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ทั้งที่ลูกทำงานในห้างใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นางเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี อำเภอเมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วย น.ส.บี นามสมมติ อายุ 19 ปี ลูกสาว เดินทางมาพบ พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและชี้ภาพผู้ก่อเหตุข่มขืนและข่มขู่ลูกสาว โดยเหตุเกิดเมื่อเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 4 ครั้งติดต่อกัน เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ 

น.ส.บี เปิดเผยว่า ตนเรียนจบเพียงชั้น ม.6 เมื่อเดือนมกราคม ปี 2562 ที่ผ่านมา จากนั้นตนได้มาสมัครเข้าทำงานที่ห้างขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างมีชื่อแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย  บ้านท่าตูม ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี

โดยตนทำงานในตำแหน่งพนักงานขายเครื่องมือช่าง โดยจะต้องทดลองงานเป็นเวลา 5 เดือน จึงจะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ ช่วงเดือนแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเข้าช่วงเดือนที่ 3 นายฤทธิ์ดิเรก อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกเครื่องมือช่าง จะเข้ามาพูดจาตีสนิทในเชิงชู้ชาวจับเนื้อต้องตัว ซึ่งตนไม่ชอบเพราะตนมีแฟนเป็นทอมอยู่แล้ว

ต่อมาเดือนมีนาคมมีงานทำบุญใหญ่ที่สาขา และมีการเรียกหัวหน้าแผนกเข้าประชุม จากนั้นนายฤทธิ์ดิเรกได้เข้ามาบอกกับตนว่า นายฤทธิ์ดิเรกมีสิทธิในการพิจารณาให้พนักงานผ่านการทดลองงานหรือไม่  ซึ่งตนก็มีรายชื่อถูกประเมินไม่ผ่านการทดลองงาน

นายฤทธิ์ดิเรกจึงพูดกับตนว่า ถ้าหากตนต้องการผ่านการทดลองงาน ให้ขึ้นไปคุยกันที่รถเพราะไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานรู้ เพราะบางคนก็ไม่ผ่านการทดลองงานเช่นกัน  เมื่อตนขึ้นรถเก๋ง มาสด้า 2 สีขาว ซึ่งเป็นรถเก๋งส่วนตัวนายฤทธิ์ดิเรกก็ล็อกประตูรถแล้วขับออกไปจากห้าง

สถานที่ก่อเหตุ

แล้วไปจอดที่สวนสาธารณะหนองแดซึ่งห่างจากห้างที่ตนทำงานประมาณ 1 กม. เมื่อเข้าไปจอดรถบริเวณป่าภายในสวนสาธารณะ นายฤทธิ์ดิเรกได้บังคับให้ตนสำเร็จความใคร่ให้ภายในรถ ครั้งที่ 2 ก็ถูกกระทำเช่นเดิม ต่อมาในช่วงเดือนพฤษภาคมนายฤทธิ์ดิเรกได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราตนในรถ

และเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ตนทำงานอยู่ นายฤทธิ์ดิเรกเข้ามาบังคับตนขึ้นรถเก๋งไปข้างนอกอีก แต่ตนไม่ยอม นายฤทธิ์ดิเรกจึงข่มขู่ว่าหากตนไม่ยอมไปด้วยจะนำคลิปลับที่ตนมีอะไรกันมาประจาน และจะให้นักเลงมารุมทำร้าย ให้ตนออกจากงานหรือตามฆ่าตน

ด้วยความกลัวตนจึงยอมขึ้นรถไปด้วย โดยนายฤทธิ์ดิเรกพาตนไปข่มขืนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งตนรู้สึกคับแค้นใจมาก อีกทั้งกลัวแฟนทอมจะรู้และรับไม่ได้ เมื่อกลับไปบ้านจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แล้วแม่พาตนมาแจ้งความ

น.ส.บี เปิดเผยอีกว่า นายฤทธิ์ดิเรก ยังมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศกับพนักงานหญิงในแผนกมานานแล้ว โดยใช้ตำแหน่งหัวหน้า ในการพิจารณาให้ผ่านการทดลองงาน หรือให้ออกจากงาน ได้มาข่มขู่ต่างๆ ทำให้ทุกคนต้องยอม บางคนให้ทำงานต่อ 1 เดือน จากนั้นก็บีบให้ลาออก บางรายถูกกลุ่มคนสนิทนายฤทธิ์ดิเรกพูดจาดูถูกเหยียดหยามจนต้องลาออกจากงาน หรือถ้าใครมายุ่งเรื่องนี้ก็จะให้ออกจากงาน

ด้าน นางเอ ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า หลังลูกสาวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ตนรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ ทั้งที่ทำงานอยู่ในห้างขนาดใหญ่ชื่อดัง ด้วยการเอาตำแหน่งหน้าที่มาบังคับ รังแกกันได้ขนาดนี้ รู้สึกลูกไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งหลังตนกับลูกมาแจ้งความ ลูกสาวยังได้กลับไปทำงานที่แผนกเดิม แต่นายฤทธิ์ดิเรกได้ให้พนักงานซึ่งเป็นคนสนิทของตัวเอง มาพูดจาข่มขู่เสียดสี และด่าประจานอยู่ประจำ

ส่วนนายฤทธิ์ดิเรกได้มาต่อว่าลูกสาวว่าเป็นต้นเหตุทีทำให้ภรรยาซึ่งมีบุตรด้วยกัน 4 คน รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้เขาเดือดร้อน ลูกสาวตนจะต้องลาออกจากงาน ส่วนเขาไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะเขาเส้นใหญ่ไม่มีใครกล้าไล่ออกจากงาน

ตนจึงตัดสินใจเข้าปรึกษามูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ซึ่งได้แนะนำให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งเบื้องต้น ร.ต.ท.หญิง กิตติยาภรณ์ คำมุงคุณ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ส่งตัวลูกสาวไปตรวจที่โรงพยาบาล และไปตรวจที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานแล้ว

ทั้งนี้ ตนได้ไปปรึกษาและยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี สำนักงานแรงงานและสวัสดิการ จ.อุดรธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ซึ่งได้รับคำแนะนำช่วยเหลือ จนรู้สึกว่ามีความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งขณะนี้ตนได้ให้ลูกสาวลาออกจากงานแล้ว เพื่อจะดำเนินคดีกับนายฤทธิ์ดิเรกจนถึงที่สุด