เปิดวิถี "ครูดอย" สุดทรหด ถือจอบเคลียร์ถนนโคลน ลุยทางกลับโรงเรียน
เปิดภาพ "ครูดอย" ที่มักจะเห็นเป็นประจำในช่วงฤดูฝน ถนนแปรสภาพกลายเป็นบ่อโคลนย่อมๆ ไปตลอดทาง คณะครูต้องพกจอบติดตัวมาด้วย เพื่อเปิดเส้นทางกลับไปยังโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล
เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงฤดูฝนของทุกปี นับเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของชาวอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ เนื่องจากถนนบนดอยจะแปรสภาพเป็นบ่อโคลน ทำให้การเดินทางสัญจรยากลำบากยิ่งขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและบรรดาคุณครูบนดอย
ล่าสุด นางอำไพ มณีวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย ได้เปิดเผยให้เห็นถึงภาพความทรหดของคณะครูของโรงเรียน ในการเดินทางลงดอยไปซื้อเสบียงอาหารให้กับนักเรียน โดยคุณครูทั้งชายหญิงต้องพกจอบติดตัวไปด้วย เพื่อเป็นอุปกรณ์คู่กายในการเดินทาง อีกทั้งยังต้องลงจากรถไปช่วยขุดดินโคลน เบิกทางให้รถผ่านไปได้
โดยเส้นทางกลับตัวยังอำเภอ คณะครูจำเป็นต้องใช้เส้นทางถนนอมก๋อย-แม่ตื่น ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นเส้นทางลาดชันขึ้นดอย โดยมีช่วงที่ถนนกลายเป็นโคลนและต้องลงรถมาช่วยกัน เป็นระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ซึ่งอุปสรรคดังกล่าว ทำให้คุณครูต้องใช้พละกำลังและกำลังใจร่วมกันฝ่าอุปสรรค โดยต้องใช้เวลาเดินทางจากตัวอำเภอไปที่โรงเรียนเกือบ 3 ชั่วโมง
นางอำไพ เปิดเผยว่า โดยปกติทางโรงเรียนจะลงไปจัดซื้ออาหารที่ตัวอำเภอเดือนละ 2 ครั้ง และต้องได้รับผลกระทบในทุกฤดูฝน เนื่องจากฝนจะทำให้ถนนสายนี้กลายเป็นโคลน จนรถแทบผ่านไม่ได้ แม้กระทั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ หากไม่มีประสบการณ์ก็จะขับรถผ่านไปได้ยาก ส่งผลกระทบทั้งกับคุณครูและชาวบ้านที่ต้องเข้าไปในตัวอำเภอ
รวมทั้งเด็กๆ นักเรียนที่ต้องผ่านเส้นทางนี้ หลายครอบครัวต้องส่งลูกหลานมากินนอนที่โรงเรียนในช่วงเปิดเทอม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยการสร้างถนนคอนกรีต ทาง อบต.มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ เนื่องจากประชากรมีฐานะยากจน ทำให้เก็บรายได้น้อย แต่ละปีอาศัยเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ทำให้สร้างถนนได้ปีละไม่กี่เมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้จะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่คุณครูทุกคนก็ไม่ย่อท้อและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อเด็กๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากถนนเส้นทางดังกล่าว ยังมีถนนขึ้นดอยอีกหลายเส้นทางในพื้นที่อำเภออมก๋อยที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน กลายเป็นอุปสรรคในการเดินทาง และยิ่งยากลำบากขึ้นหากมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ต้องใช้เวลานานขึ้น โดยชาวบ้านบอกว่ามีหลายคนต้องเสียชีวิตระหว่างก่อนจะไปถึงโรงพยาบาล จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสร้างถนนที่มั่นคงปลอดภัยให้มากกว่านี้