โรงเรียนแจงภาพ "รด.แลกลิ้น" เด็กสมัครใจทำ ยันพาไปตรวจหาโรคแล้ว

โรงเรียนที่อุบลฯ แจงภาพฉาวสนั่นโซเชียล นักเรียนชุด รด.แลกลิ้น ยืนยันไม่ใช่กิจกรรมรับน้อง เพราะการทดสอบที่ผ่านการสมัครใจของเด็ก ล่าสุดพาไปตรวจหาโรคแล้ว

จากกรณีอื้อฉาวภาพกิจกรรมที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ได้เตรียมความพร้อมให้กับนักเรียน 17 คน ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนนักศึกษาวิชาทหาร ด้วยการให้ผลัดเปลี่ยนอมลูกอมและส่งต่อผ่านกันทางปากต่อปาก กระทั่งกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

ล่าสุด ว่าที่ ร.ต.สุรพล สืบพรหม ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ได้เปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริงที่โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา อ.น้ำขุ่น ซึ่งเป็นโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

ขณะนี้ได้รับทราบจาก นายสุรพงษ์ ด้วงทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนน้ำขุ่น ว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพการทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและกิจกรรมชุมนุม ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนนักศึกษาวิชาทหาร ลักษณะทดสอบกำลังใจ ไม่ใช่กิจกรรมรับน้องใหม่ของนักศึกษาวิชาทหารแต่อย่างใด

>> รับน้อง รด. อุบลราชธานี มีแลกลิ้นสุดเสื่อม! โซเชียลจวก ไม่สร้างสรรค์-เสี่ยงโรคติดต่อ

กิจกรรมนี้เป็นการทดสอบความเตรียมความพร้อมที่จะเข้ารับการฝึกที่ศูนย์ฝึกวิชาทหารที่โรงเรียนน้ำยืนวิทยา ซึ่งมีนักเรียนที่เข้าร่วมฝึก 17 คน เป็นนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 เป็นการเตรียมความพร้อมในการที่จะเข้ารับการฝึกของศูนย์ฝึก ในช่วงเวลา 15 วัน ทุกคนก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เป็นการทดสอบกำลังใจ สำหรับฐานที่ทดสอบจะอมลูกอมทั้ง 17 คน โดยเป็นไปด้วยความสมัครใจ

ทั้งนี้ หลังจากที่มีข่าวเผยแพร่ออกไป ทางโรงเรียนก็พานักเรียนไปตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนไม่ได้เจ็บป่วย หรือมีโรคติดต่อ ขณะที่ภาพที่โพสต์ออกไปไม่ใช่เด็กนักเรียนเป็นผู้โพสต์ แต่เป็นครูที่ถ่ายภาพกิจกรรมของโรงเรียน ได้นำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว หวังจะเป็นภาพที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน

อย่างไรก็ตาม ทางผู้อำนวยการโรงเรียนก็เรียกมาพบว่ากล่าวตักเตือนแล้ว ขณะที่ทางทหารซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฝึก ก็ได้สอบถาม และตักเตือนว่าการทำลักษณะดังกล่าวไม่ปลอดภัยกับสุขภาพและสุขอนามัย อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสี่ยงติดเชื้อหรือโรคอื่นๆ ที่มากับน้ำลายสารคัดหลั่งได้ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นหลักสูตรในการฝึกของนักศึกษาวิชาทหารอย่างแน่นอน