หัวหน้าหนุ่มโต้ข่มขืนลูกน้องสาววัย 19 อ้างผู้หญิงสมยอม ขู่แบล็กเมล์เรียก 3 แสน

หัวหน้าหนุ่มโต้ข่มขืนลูกน้องสาววัย 19 อ้างผู้หญิงสมยอม ขู่แบล็กเมล์เรียก 3 แสน

หัวหน้าหนุ่มโต้ข่มขืนลูกน้องสาววัย 19 อ้างผู้หญิงสมยอม ขู่แบล็กเมล์เรียก 3 แสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี นางเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี อำเภอเมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วย น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ลูกสาว เดินทางมาพบ พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร้องทุกข์ว่าถูก นายฤทธิ์ดิเรก อายุ 37 ปี หัวหน้างานของลูกสาว โดยเหตุเกิดเมื่อเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 4 ครั้งติดต่อกัน เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ 

(5 ก.ค.62) เวลา 12.50 น. ความคืบหน้าของคดี นางเอ (นามสมมุติ) ได้พาลูกสาว น.ส.บี (นามสมมติ) มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี โดย ร.ต.ท.หญิงกิตติยาภรณ์ แก้วมุงคุณ รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน ต่างๆ ที่ผู้เสียหายได้พาชี้จุดสถานที่ต่างๆ ที่คำให้การว่า โดนข่มขืนทั้ง 4 ครั้ง รวมถึงสอบปากคำ ก่อนไปขออนุมัติหมายจับ นายฤทธิ์ดิเรก อายุ 37 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น

ต่อมาญาติของ นายฤทธิ์ดิเรก ได้ติดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอมอบตัวกับตำรวจ หลังทราบว่า มีออกหมายจับ โดยร.ต.อ.บรรจง พาโคตร รองสว.สส. ได้นำกำลังไปรับตัว นายฤทธิ์ดิเรก โพนทอง ที่รีสอร์ท แห่งหนึ่ง ตำบลนาข่า พร้อมนำหมายจับไปแสดง แล้วนำตัวมา มาโรงพัก

พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้ทำการสอบปากคำ นายฤทธิ์ดิเรก โพนทอง ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นลูกผู้ชาย ยอมรับว่ามีอะไรกับ น.ส. บี ที่เป็นลูกน้องในแผนกที่ตนดูแล จริงถึง 4 ครั้ง ซึ่งตนเองมีคลิป ตอนที่ไปด้วยกันไม่ได้บังคับขู่เข็ญอย่างที่ฝ่ายหญิงให้ข้อมูลแต่อย่างใด เป็นการสมยอมทั้งสองฝ่าย หลังจากมีข่าวออกไปทำให้ตนเองถูกโลกโซเชียลโจมตีเป็นอย่างมาก ซึ่งเหรียญมีสองด้าน จะฟังแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้

"ในตอนแรกเขาบอกว่าตั้งท้อง จึงให้แฟนของผมพาเขาไปตรวจ ที่คลินิกในตัวเมืองอุดรฯ แต่ปรากฏว่าไม่ได้ตั้งท้อง แล้วเขาเริ่มแบล็คเมล์ตนครั้งแรก โดยการเรียกเงินจำนวน 1 แสนบาท แต่ผมไม่มีเงินให้เขา ต่อมามีการไปแจ้งความที่ สภ.นาข่า ในตอนนั้นได้ไปตกลงกัน ฝ่ายน้องเค้าเรียกเอาเงินจำนวน 3 แสนบาท แต่ผมมีให้ 3 หมื่นบาท ทำให้เขาไม่ยอม จึงได้เกิดเรื่องขึ้นมา"

ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นคนเจ้าชู้จริง ที่ผ่านมามีแฟนถึง 3 คน และลูก 4 คน ตั้งแต่ฝ่ายหญิงเข้ามาทำงาน และเป็นฝ่ายเข้ามาตีสนิทกับผมเอง และได้มีอะไรกันถึง 4 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งไม่ได้บังคับแต่อย่างใด เรื่องที่อ้างว่าตนเองใช้หน้าที่การทำงานบังคับก็ไม่เป็นจริง ซึ่งตนก็อยากให้ฟังทั้ง 2 ฝ่าย และให้กฎหมายเป็นผู้พิสูจน์ความจริง

พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า สำหรับคดีที่ผู้ต้องหา มีคลิป และวงจรปิด มาให้ตำรวจ ว่าไม่ได้บังคับน้องเขาไป ข่มขืน ซึ่งพนักงานสอบสวน ต้องฟังคำให้การทั้งสองด้านอยู่แล้ว คงต้องเรียกพยานหรือบุคคลมาให้ปากคำเพิ่มเติม รวมถึงหลักฐานต่างๆ เช่นกล้องวงจรปิด สถานที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ส่วนเรื่องในการขอประกันตัวของผู้ต้องหาก็สามารถทำได้ ซึ่งต้องให้ผู้กำกับ สภ.เมืองอุดรธานี เป็นผู้พิจารณา 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook