แผ่นดินไหว 7.1 รุนแรงกว่า-ซ้ำรอยเดิม ขวัญผวาทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย

แผ่นดินไหว 7.1 รุนแรงกว่า-ซ้ำรอยเดิม ขวัญผวาทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย

แผ่นดินไหว 7.1 รุนแรงกว่า-ซ้ำรอยเดิม ขวัญผวาทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนแคลิฟอร์เนียขวัญผวา แผ่นดินไหวซ้ำรอยต่อเนื่อง แรงเขย่า 7.1 แมกนิจูด ใกล้กับจุดศูนย์กลางเดิม รับรู้แรงสั่นสะเทือนไปไกลถึงลอสแองเจลิส-ลาสเวกัส

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ใกล้เคียงกับแผ่นดินไหวครั้งที่แล้ว ทำให้แรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบ ที่เปราะบางจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันก่อน

ตามรายงานระบุว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.1 ตามมาตราแมกนิจูด บริเวณเมืองริดจ์เครสท์ เขตซานเบอนาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเวลา 20.13 น. ตามเวลาในท้องถิ่น วันที่ 5 กรกฎาคม 2562 ซึ่งเวลาช้ากว่าประเทศไทย 14 ชั่วโมง แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในระดับความลึก 17 กิโลเมตรจากพื้นดิน โดยจุดศูนย์กลางของเหตุครั้งนี้อยู่ห่างจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.4 เมื่อเช้าวันที่ 4 กรกฎาคม ประมาณ 30 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ถูกพิจารณาเรียกว่า "ฟอร์ช็อก" (แผ่นดินไหวนำ) หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ไปเมื่อวันก่อน ทางกรมสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา สามารถตรวจจับอาฟเตอร์ช็อกได้มากกว่า 1,400 ครั้งภายในเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนจะจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหม่ วัดขนาดได้ 7.1 ตามมาตราแมกนิจูดในครั้งนี้

>> แผ่นดินไหว 6.4 เขย่าแคลิฟอร์เนีย ระทึกในวันชาติ สั่นสะเทือนถึงแอลเอ

เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายในกับพื้นที่โดยรอบ มีรายงานบ้านเรือนถูกเพลิงไหม้เนื่องจากระบบท่อส่งแก๊สรั่ว ท่อน้ำใต้ดินเกิดแตกออก ขณะที่ถนนเชื่อมต่อระหว่างเมืองบางจุดแตกออกจากกัน และแรงสั่นสะเทือนยังสามารถรับรู้ไปถึงหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ทั้ง นครลอสแองเจลิส หรือ นครลาสเวกัส ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวไปราวๆ 200 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม เหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนั้น ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษของภูมิภาคนี้ หลังจากที่เมื่อปี 1994 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.6 ใกล้กับนครลอสแอนเจลิส โดยในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 57 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 8,700 คน บ้านเรือนพังเสียหาย

ขณะที่นักวิชาการและนักธรณีวิทยาเชื่อว่าแผ่นดินไหวรุนแรงต่อเนื่องกันถึง 2 วันที่เกิดขึ้นนี้ในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณในความเปลี่ยนของชั้นเปลือกโลก และคาดว่าในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องเผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวที่มีขนาดรุนแรงมากกว่านี้อีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook