รุ่นพี่ ม.6 รุมซ้อมน้อง ม.3 แลกเลสข้อมือประจำรุ่น หัวใจหยุดเต้น-สมองบวมโคม่า
เฟซบุ๊ก เหน่อ หนองกระโดน ลงเรื่องราวของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่เข้าไปรับเลสข้อมือประจำรุ่น จากรุ่นพี่ ม.6 ประมาณ 10 คน แล้วโดนรุ่นพี่เตะหน้าอกจนหายใจไม่ออก ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองไม่ทัน นอกจากปอดช้ำแล้วยังสมองบวมด้วย ล่าสุดน้องหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว 3 รอบ ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้ ไม่เคยปรากฏพบที่โรงเรียนมาก่อน เป็นการคิดอยากทำและสืบทอดกันเองของนักเรียนรุ่นพี่ รับแจ้งว่าตอนนี้รุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายหนีไปกบดานทางภาคตะวันออก
(8 ก.ค.62) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีรุ่นน้องถูกรุ่นพี่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม รับน้องเข้ากลุ่ม มีการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.นครชัยศรี ภ.จว.นครปฐม ว่าเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 01.00 น. กลุ่มเด็กนักเรียนชั้น ม.6 รุ่นพี่ และเด็กนักเรียนชั้น ม.3 รุ่นน้อง โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม จำนวนประมาณ 15 คน ได้ไปทำกิจกรรมบริเวณหน้าบ้าน หมู่ 2 ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ต่อมามีการรับรุ่นน้องเข้ากลุ่ม โดยให้รุ่นพี่เป็นคนเตะทดสอบ ปรากฏว่ามีรุ่นน้อง 3 คนถูกรุ่นพี่เตะที่หน้าอก 3 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.นครปฐม และต่อมาวันที่ 1 ก.ค.62 ผู้ปกครองรุ่นน้องที่บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย
คดีนี้ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ วาดแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป และได้สอบถามพยานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นแล้ว โดยจะมีการสอบสวนปากคำพยานอย่างละเอียดร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และพนักงานอัยการ ขณะที่ ผกก.สภ.นครชัยศรีได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดี อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา และนำตัวไปขอให้ศาลสั่งควบคุมตามกฎหมายเยาวชนฯ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลของแพทย์ รพ.นครปฐม นำมาประกอบสำนวนการสอบสวน
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่ายังมีรุ่นพี่บางกลุ่ม บางสถาบัน ที่ยังก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรม ประเพณี กฎระเบียบของคณะ หรือด้วยเหตุผลอื่นใด ซึ่งล้วนอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียและความเสียใจต่อญาติ ผู้ปกครองของผู้ที่ถูกกระทำ จึงอยากเตือนไปยังรุ่นพี่ที่คอยดูแลรุ่นน้องตามสถาบันต่างๆ ให้พึงระลึกถึงความผิดชอบชั่วดี การกระทำอันใดที่ไม่สมควรกระทำกับรุ่นน้อง เช่น การกระทำที่ถึงเนื้อถึงตัว ทำร้ายร่างกาย เสี่ยงอันตราย เป็นต้น ก็ขอให้ละเว้น เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายของรุ่นน้อง ผู้ที่กระทำจะมีความผิดตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มีการละเว้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้ที่กระทำความผิดได้
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและต้องสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวในทุกมิติ