หลินฮุ่ยเลี้ยงแพนด้าน้อยจนเพลีย-จนท.โด๊ปอาหารเสริม

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูลทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ แถลงถึงความคืบหน้าของการเฝ้าดู หลินฮุ่ย เลี้ยงลูก แพนด้าน้อย นายประเสริฐศักดิ์กล่าวว่า จากที่ได้เฝ้าสังเกตดูหลินฮุ่ยแม่แพนด้าน้อยตลอดทั้งคืนวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น หลินฮุ่ยดูอาการอ่อนเพลียมาก เพราะหลินฮุ่ยนอนน้อยสะสมมาหลายวันแล้ว ถึงแม้ว่าหลินฮุ่ยจะพยายามแยกตัวออกมาจากลูกในบางครั้งเพื่อขับถ่ายช่วงระยะเวลา 5-10 นาทีก็ตาม ก็ยังหวงลูกรีบกลับมาดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องการให้หลินฮุ่ยพักผ่อนและผ่อนคลายให้มากขึ้น ทางทีมวิจัยแพนด้าพยายามจะนวดให้หลินฮุ่ยบ่อยครั้งมากขึ้น

"สำหรับการกินอาหารของหลินฮุ่ย ยังกินตามอัตราเฉลี่ยเท่ากับ 2-3 วันที่ผ่านมา คือกินขนมปังไผ่จำนวน 6 ก้อนต่อ 1 วัน คือขนมปังก้อนละ 300 กรัมรวม 1,800 กรัมต่อวัน ซึ่งภายใน 1 วันยังกินอาหารประมาณ 2 กก.และกินผลไม้เสริมเช่นแอปเปิ้ล ส่วนการให้ไผ่ลูกศรนั้นหลินฮุ่ยก็ยังกินได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามสำหรับอาหารเสริมยังไม่มีอะไรที่จะให้กินเสริมทั้งหลินฮุ่ยและแพนด้าน้อยในช่วงนี้เป็นพิเศษ น้ำหนักของหลินฮุ่ยล่าสุดหนัก 107 กก.ถือว่ายังไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนน้ำนมของหลินฮุ่ยก็ยังไหลปกติดีทั้ง 4 เต้า"

หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ส่วนแพนด้าน้อย หลังจากที่นำมาชั่งน้ำหนักแล้วนั้นน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น สุขภาพโดยรวมแข็งแรงมากขึ้น ส่วนบริเวณท้องหรือพุงแพนด้าน้อยได้ขยายตัวออกมากขึ้น และยังพบว่าด้านหลังของแพนด้าน้อยผิวหนังเป็นรอยย่นคือเป็นสัญญาณบอกว่า บริเวณหน้าท้องของแพนด้าน้อยจะขยายใหญ่มากขึ้นอาจจะกลมเหมือนลูกบอลได้ในเร็วๆ นี้ ผิวหนังของแพนด้าน้อยจะมีสีดำตามตำแหน่งต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น แถบสีดำบริเวณปลายขาหลังขยายอาณาเขตขึ้นเหนือหัวเข่าเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น