"เชียร์" น้ำตาคลอ เปิดตัวคบ "ไฮโซบิ๊ก" แฟนคลับดราม่า ลามหนักถึงครอบครัว
ทำเอานางเอกสาวแกร่ง เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ถึงกับน้ำตาคลอขณะสัมภาษณ์เลยทีเดียว เมื่อได้ตอบคำถามถึงประเด็นดราม่าหลังเปิดตัวคบหาดูใจกับไฮโซหนุ่ม บิ๊ก-ธนพนธ์ เบญจรงคกุล แต่ถูกแฟนคลับบางกลุ่มต่อว่า ว่าเธอโกหกหลอกลวง เพราะก่อนหน้านี้บอกสถานะโสดตลอด ไม่มีคนคุย ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังลามไปต่อว่าถึงคนในครอบครัวของเธออีกด้วย
งานนี้ เชียร์ ฑิฆัมพร ได้ออกมาชี้แจงถึงระยะเวลาในการเริ่มศึกษาดูใจกับไฮโซบิ๊กแบบละเอียดให้ฟัง โดยยืนยันว่าสิ่งที่เธอเคยพูดไม่ได้เป็นเรื่องโกหก พร้อมวอนขอหากไม่ชอบและอยากต่อว่าเธอไม่เป็นไร แต่อย่าลามไปถึงคนในครอบครัวของเธอเลย
ถามถึงกระแสดราม่าหลังจากเปิดตัว บิ๊ก เบญจรงคกุล ?
"ก็ต้องบอกจริงๆ ก็ทราบแหละ เพราะมีการส่งมาถึงเราตลอดอยู่แล้ว แต่ว่าจริงๆ ต้องบอกอย่างนี้ละกันว่า คำพูดเชียร์ครั้งที่แล้วอาจจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่เข้า และเข้าใจกันผิด เพราะว่ามันเป็นความหมายที่กว้างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนอื่นเชียร์อยากจะขอโทษ หากทำให้เข้าใจผิด หรือรู้สึกไม่ดีต่อกัน สำหรับเชียร์ในความหมายที่บอกว่า เชียร์รู้จักกับบิ๊กมา 2 ปี ที่เชียร์บอกว่าเริ่มจากความเป็นเพื่อนกัน คำนี้อาจจะต้องอธิบายกันหน่อยว่ามันคือความเป็นเพื่อนกันจริงๆ"
"คือคำสัมภาษณ์ทุกครั้งเวลาที่เชียร์พูดว่าความสัมพันธ์ไม่พัฒนา มันไม่พัฒนาจริงๆ ค่ะ เป็นเพื่อนกันจริงๆ เราคบกันด้วยความเป็นเพื่อนกันมา และความเป็นเพื่อนนี้มันมีการเดินทางโดยเป็นเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน การได้ไปทานข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันในกลุ่มเดียวกัน คือเราค่อยๆ เห็นถึงความเป็นเพื่อนที่ดี คำที่เชียร์บอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่ทำให้เราตลอด ในมุมเขาคือเขาทำในความเป็นเพื่อน ไม่ใช่ทำในความที่เราเป็นกิ๊กกัน ยืนยันตรงนี้ไม่ใช่กิ๊กกันมา 2 ปี หรือคบกันมาเป็นแฟน 2 ปีแล้วมาเปิดตัว ไม่ใช่นะคะ เราแมนมากนะ จริงๆ คำพูดที่เราพูดว่าโสดคือโสด เป็นเพื่อนคือเป็นเพื่อน และคำที่เชียร์ใช้ว่าเมื่อมาพัฒนาเป็นคนพิเศษ เชียร์ก็มาบอกว่าเป็นคนพิเศษ นั่นคือทุกสถานะที่เชียร์พูดทุกครั้ง มันคือความจริง"
อาจจะยังมีแฟนคลับที่ติดใจว่าในเดือนกุมภาพันธ์เราบอกว่าเรายังโสด ไม่มีใคร ยังไม่มีคนมาจีบ ?
"คือต้องบอกอย่างนี้ สำหรับเชียร์ ถ้าเชียร์นับว่าเชียร์โสด และนับว่าเป็นเพื่อน เชียร์ไม่ได้มองว่าเขาเป็นใครที่จะมีโอกาสเป็นไปได้ แต่เมื่อการเดินทางอย่างที่เชียร์บอกมันเห็น และมันทำให้วันหนึ่งเรารู้สึกว่า คนนี้ดีกับเรามาตลอดเลย ดีด้วยทั้งความเป็นเพื่อน ดีด้วยทั้งที่เขาอาจจะให้เราพิเศษมากกว่าคนอื่นอะไรก็ตาม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการทำสิ่งดีๆ ให้กัน แค่นั้นเองค่ะ"
"ส่วนที่จะบอกว่าเชียร์ไปโกหกเรื่องอะไร คืออันนี้ขอแยกเป็น 2 ประเด็นนะคะ เรื่องคำว่าโสด คือเชียร์โสดจริงๆ และตลอดทางเชียร์พูดมาตลอด อันนี้ขออ้างอิงถึงน้องเต้ย พงศกร เพราะกรณีนี้มันเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับเชียร์ว่าเชียร์หลอกในฐานะคู่จิ้น เชียร์ก็พูดอยู่ตลอดว่ากับเต้ยคือเป็นน้อง เป็นเพื่อนร่วมงาน เชียร์ไม่เคยบอกว่าเต้ยเป็นอะไรมากกว่าคู่จิ้น และเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีแค่นั้น เชียร์พูดมาตลอด ก็อยากจะย้ำตรงนี้อีกสักครั้งหนึ่งว่าบางทีอาจจะลืมกันไปหรือเปล่า"
คนย้อนไทม์ไลน์การให้สัมภาษณ์เราเลยเอามาเป็นประเด็น ?
"ก็คืออันนี้พูดนิดหนึ่งแล้วกัน ที่เชียร์บอกและขอโทษ เพราะคำพูดที่เชียร์พูดมันเป็นคำที่กว้างพอสมควร ทีนี้การตีความหมายออกมา ทั้งการนำเสนอข่าว หรือว่าการเล่าข่าวในบางครั้ง ในการเขียนหัวข่าวในบางครั้ง เราคบมานานแล้วเพิ่งเปิดตัว จริงๆ อันนี้เชียร์เคลียร์แล้วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ"
เป็นเพื่อนกันมาก่อน ?
"ใช่ เป็นเพื่อนกันมาจริงๆ และคำที่เชียร์บอกว่าเพิ่งเปิดใจ ก็คือเพิ่งเปิดใจจริงๆ เพิ่งเปิดใจเลยค่ะ นึกออกไหม"
ก่อนหน้านี้เราเคยบอกว่าไม่ชอบไฮโซ ถ้าเขามาจีบจริงๆ เป็นแฟนไปตั้งนานแล้ว ?
"คำที่เชียร์พูดมันไม่ได้จำกัดความว่าคนที่เชียร์จะชอบต้องเป็นไฮโซเท่านั้น หรือต้องเป็นใครที่มีฐานะ มันไม่ใช่ เพราะถ้าเราจะมุ่งไปที่คำจำกัดความที่จะเลือกใครที่โปรไฟล์ดีทุกอย่าง เราคงชอบเขาไปนานแล้ว คือไม่ได้หมายความว่าเราจะตั้งแง่ว่าเราไม่ชอบแน่นอน ไม่ใช่อย่างนั้น เราคือใครก็ได้ที่ดีกับเราจริงๆ"
แอบเหนื่อยไหมพอให้สัมภาษณ์อะไรก็เอามาโยงเป็นประเด็น ?
"ไม่เหนื่อยค่ะ เพราะคือพื้นฐานในสิ่งที่เกิดขึ้นในการที่เขาสนใจเรามาจากการที่เขารักเรา ฉะนั้นแล้วความรักนี้มันก็อยู่กันด้วยความรักมาตลอด แต่ถ้าวันหนึ่งถ้ามีอะไรที่ทำให้ไม่เข้าใจ ถ้าเชียร์ขอโทษได้ เชียร์ขอโทษ เพราะเชียร์ไม่เคยไม่ให้ความสำคัญพวกเขานะ นึกถึงเขาตลอด แต่วันนี้ถ้าเขาจะไม่เข้าใจ ไม่เป็นไร คือเชียร์จริงใจที่จะพูดแบบนี้ ละนี่คือตัวเชียร์ ถ้าความเป็นกันเอง หรือความสุขที่มีกันมา ถ้าวันนี้เชียร์ทำให้เขาไม่มีความสุขอาจจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ คือเชียร์เคยพูดเสมอว่าให้อยู่ในจุดที่สบายใจ ถ้าวันนี้ไม่สบายใจเพราะเชียร์ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าวันนี้ได้ฟังคำพูดเชียร์แล้วสบายใจที่จะอยู่ด้วยกันต่อ เชียร์ก็จะยินดีและขอบคุณมาก เพราะเชียร์ให้ความสำคัญและเห็นค่าเขาตลอด"
รับได้ใช่ไหม ถ้าแฟนคลับบางกลุ่มจะหายไป ?
"มันแน่นอนค่ะ ต้องรับได้อยู่แล้ว คือเราอยู่ในวงการมา คนที่เคยอยู่กับเรามา เขาก็มีเปลี่ยนไปชอบคนอื่น หรือหายไปบ้างด้วยหน้าที่การงาน ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่มันอาจจะหายกันไปก็มี คือเราก็เห็นอยู่ตลอดว่ามันมีการวนเวียนอยู่ตลอด แม้กระทั่งเราเอง เราเคยชอบใครที่เป็นดารา-นักแสดง วันหนึ่งเราโตขึ้นมา เราก็ไม่ได้ชอบคนนั้นแล้ว ไม่ได้ติดตามเขา เชียร์มองว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ ไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืนอยู่แล้ว มันมีการเปลี่ยนกันได้ตลอด"
ข่าวนี้มันบั่นทอนจิตใจเราไหม ?
"เสียใจไหมเหรอคะ มันก็รู้สึกกระทบจิตใจแหละ เพราะว่าเราก็รู้สึกว่าเราให้คุณค่า ให้คำขอบคุณมาตลอดกับคนที่รักเรา แต่ว่าบางคำพูดที่เชียร์รู้สึกว่าบางอย่างอาจจะฟังด้วยความไม่เข้าใจก็จริง แต่ว่ามาใช้คำพูดที่รุนแรงมากๆ กับเชียร์ (น้ำตาคลอ) สิ่งที่เชียร์รู้สึกว่ากระทบที่สุดคือ ไปพูดจากับครอบครัวเชียร์ไม่ดีเลย คือกับเชียร์ไม่เป็นไรค่ะ แต่การที่ไปพูดกับคุณแม่เชียร์ การที่ไปว่าพี่ชายเชียร์ การที่ไปว่าน้องชายเชียร์ ไปตีหน้าว่าโกหกอะไรก็ไม่รู้ แต่มันเป็นคำพูดที่รุนแรงและหยาบคายมาก โดยที่เราเล่าไม่ได้จริงๆ เรารู้สึกมันค่อนข้างเกินไปไหม มีอะไรก็มาลงที่เชียร์ อย่าไปลงที่คนอื่นแบบนี้ และที่สำคัญครอบครัวเชียร์เขาไม่ได้ทำอะไร"
"คือมีการหาว่าหลอกลวงบ้าง ปลอมบ้าง คือเชียร์งงว่า เอ๊ะ เราก็พูดอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอว่าเราเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน เป็นแค่เพื่อนกัน เป็นแค่พี่น้องกัน คือมันอาจจะมีกรณีที่มีแฟนคลับฝากของกันมา บ้านฝั่งเต้ย คุณพ่อ คุณแม่ น่ารักมากนะคะ คือเอาของมาให้ตลอด เอาข้าวสาร เอาอะไรมาฝากตลอด แล้วการที่หม่าม๊าเชียร์เอาของให้ มันเป็นน้ำใจที่เหมือนเรารักษามิตรภาพกัน เป็นน้ำใจที่ให้กันไปมา มันเป็นสิ่งที่น่ารักมาก แต่วันนี้กลายเป็นว่าความน่ารักนี้มันถูกมอง กลายเป็นคำหยาบที่กลับมา คือเชียร์รู้สึก ขอเถอะค่ะอย่าเอาอะไรมาใส่กับครอบครัวเชียร์แบบนี้เลย"
เราแอบเสียน้ำตากับเรื่องนี้ ?
"ก็เพิ่งมาเสียตอนนี้แหละค่ะ (หัวเราะ)"
เต้ยเขาติดต่อหรือถามไถ่เราบ้างไหม ?
"อันนี้ยังไม่มีโอกาสได้คุยกันค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้มันเกิดจากความไม่เข้าใจจากฝั่งเชียร์ ฉะนั้นอยากให้ฟังตรงนี้และลองใช้วิจารณญาณกันดูว่ามันคืออะไร ยังไง อย่างที่บอกค่ะ ถ้าสบายใจยังไง จะอยู่หรือไม่อยู่ เชียร์อยากให้ความสบายใจมันเกิดขึ้นมากกว่า เพราะพื้นฐานเราเกิดขึ้นจากความรัก"
คู่จิ้นจะปิดตัวเลยไหม ถ้ามันรุนแรงขนาดนี้ ?
"คือสำหรับเชียร์มันไม่เกี่ยวเลยนะ อย่างที่บอกถ้าใครอยากจะอยู่ซัพพอร์ทหรือไม่ อันนี้เป็นสิทธิ์ของเขา แต่การทำงานเชียร์ หรือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นสำหรับตัวเชียร์ มันก็ยังดำเนินต่อไป นี่ไม่ใช่คู่จิ้นแรกที่เกิดขึ้น สำหรับเชียร์เคยเป็นคู่จิ้นกับพี่กันต์ กันตถาวร จนพี่กันต์แต่งงานแล้ว ยังมีคนเห็นความน่ารักเวลาอยู่ด้วยกันอยู่เลย กับแม่แอน สิเรียม แม้กระทั่งแฟนคลับของแอนเชียร์ เขาก็ยังให้กำลังใจเราตลอด เกิดการพูดถึงว่าเชียร์มีคนพิเศษ เขาก็ยังให้กำลังใจตลอด ก็จริงๆ ต้องบอกว่ามีกำลังใจมากมายนะคะที่ส่งมาให้ คือไม่ใช่ว่าสิ่งที่ไม่เข้าใจจะเกิดขึ้นจากฝั่งลูกหมี ต้องใช้คำว่าลูกหมีนะคะ คือลูกหมีที่เข้าใจก็มีเยอะมากเลย แต่คนที่ไม่เข้าใจก็มี"
ด้านบิ๊กเขาเป็นกำลังใจให้อย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ เขาถามไหม ?
"ไม่ค่ะ อย่างที่บอกว่าเชียร์รู้สึกว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากคำพูดเชียร์ เชียร์ก็อยากจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง หรือไม่ได้อยากให้กังวลใจอะไรเรื่องของเชียร์ค่ะ"
มีอะไรอยากจะบอกกับครอบครัวหมีบางส่วนที่เขาอาจจะไม่เข้าใจเรา ?
"เชียร์ว่าทั้งหมดทั้งมวลคือพูดไปหมดแล้วนะคะ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนที่ฟังแล้วว่าจะรู้สึกยังไงกับคำพูดเชียร์นะคะ"
>>"เชียร์ ฑิฆัมพร" เปิดตัวแล้ว แพ้ความดี "ไฮโซบิ๊ก" เปลี่ยนคำว่าเพื่อนให้เป็นคนพิเศษ
>>เชียร์ ฑิฆัมพร แฟน “ไฮโซบิ๊ก” ทายาทตระกูลดังรวยระดับมโหฬาร!
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ