โวยพยาบาลห้อง ICU โรงพยาบาลดัง รุมทุบพ่อวัย 86 จนซี่โครงร้าว
อดีตนายทหารนอกราชการโวยห้อง ICU รพ.ดัง ทุบพ่อซี่โครงร้าวหลังเข้ารับการรักษาตัว เผยเปรียบเหมือนนรกสำหรับคนไข้ วอนผู้บริหารรับผิดชอบหลังแจ้งแล้วหายเงียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (10 ก.ค.) พ.ท.ไพฑูรย์ อายุ 59 ปี นายทหารนอกราชการ เปิดรอยช้ำบริเวณหน้าอกและตามลำตัวของนายสมพงษ์ อายุ 86 ปี อดีตกำนันแหนบทองคำ ซึ่งเป็นบิดาของ พ.ท.ไพฑูรย์ พร้อมนำใบแจ้งผลเอกซเรย์เบื้องต้นมาให้ผู้สื่อข่าวดู หลังเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสมพงษ์เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง เนื่องจากป่วยเป็นโรคน้ำท่วมปอด โดยพักอยู่ในห้องไอซียู
และเมื่อญาติเข้าไปเยี่ยมได้รับแจ้งว่าถูกพยาบาลทั้งหญิงและชายที่อยู่ในห้องดังกล่าว จำนวน 5 คน ทุบที่หน้าอกอย่างแรงหลายครั้งและจับมัดไว้กับเตียงจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากทราบเรื่องและพ่อมีอาการดีขึ้นจึงพาไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอ่างทอง และพบว่าผลเบื้องต้นซี่โครงซี่ที่ 5 ด้านขวาร้าว จึงต้องทำการซีทีสแกนอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งทางแพทย์ได้ให้ยาแก้ปวดมารับประทาน
โดยหลังจากตอนแรกที่พ่อบอกญาติทุกคนไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากน้องสาวของตนก็เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าวแต่อยู่คนละที่ ไม่คิดว่าพ่อจะถูกกระทำ แต่จากการดูรอยช้ำและผลเอกซเรย์เบื้องต้นทำให้เชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุขึ้นจริง
ส่วนมูลเหตุน่าจะเกิดจากการสื่อสารระหว่างคนไข้กับพยาบาล เนื่องจากพ่อรู้สึกตัวดีแต่ถูกมัดแขนไว้กับเตียง ก็เหลือแต่เพียงเท้าที่ใช้ถีบได้เมื่อพยาบาลเห็นก็เข้ามาต่อว่า และน่าจะเกิดอาการไม่พอใจ หรือเกิดจากอารมณ์จนทำให้ใช้หมัดทุบพ่อของตน
ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสม เพราะมีแต่คนป่วยไม่มีใครพูดได้เพราะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ถ้ามีเหตุการณ์อย่างนี้ห้องไอซียูก็เปรียบเสมือนนรกสำหรับคนไข้ ที่ตนมาร้องเรียนก็เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับคนไข้รายอื่น น่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงบ้างไม่ใช่เห็นว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ
เบื้องต้นตนไปร้องเรียนกับทางนิติกรของสาธารณสุขจังหวัดอ่างทองซึ่งต้องรอผลซีทีสแกน 2 วัน โดยวันนี้ได้เข้าไปพบ ร.ต.ท.กุลวิชญ์ เหล่าประทาย ร้อยเวร สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน นพ.วรงค์ รุ่งเรือง สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่าเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานถึงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว โดยในวันพรุ่งนี้จะสอบถามไปยังโรงพยาบาลที่เกิดเหตุเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงต่อไป