สาธารณสุขยืนยัน "ผัดไทย" ปรุงร้อนไม่น่าเป็นสาเหตุทำชาวออสซี่ป่วยหนัก 2 ปี

สาธารณสุขยืนยัน "ผัดไทย" ปรุงร้อนไม่น่าเป็นสาเหตุทำชาวออสซี่ป่วยหนัก 2 ปี

สาธารณสุขยืนยัน "ผัดไทย" ปรุงร้อนไม่น่าเป็นสาเหตุทำชาวออสซี่ป่วยหนัก 2 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันไทยมีระบบความปลอดภัยทางอาหารที่มีประสิทธิภาพ ย้ำ "ผัดไทย" ปรุงร้อนทำใหม่ ไม่น่าใช่สาเหตุทำ 2 นักท่องเที่ยวออสเตรเลียป่วยหนัก

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่า 2 นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางมาที่ประเทศไทยแล้วกินผัดไทยจนคิดว่าเป็นสาเหตุของอาการป่วยโรคทางอาหาร และรักษาตัวนานกว่า 2 ปีนั้น ยืนยันว่าประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และการสอบสวนโรค ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข

โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค และสำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงภาคีเครือข่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ร่วมกันดำเนินการมาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ในการดูแลเกี่ยวกับอาหารนำเข้า ส่งออก และบริโภคภายในประเทศ เพื่อให้ประชาชนที่บริโภคได้รับความปลอดภัยจากอาหาร

>> ผัวเมียออสซี่โวยติดเชื้อปรสิต ป่วยหนัก 2 ปี เพราะกินผัดไทย

อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรค ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประสานไปยังสำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย และคณะกรรมการเครือข่ายความปลอดภัยด้านอาหารระหว่างประเทศ (INFOSAN) ภายใต้กฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR 2005) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักเรื่องอาหารปลอดภัย เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประสานไปยังเครือข่ายระหว่างประเทศ และประชุมหารือผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าว สำหรับเชื้อโรคตามที่ถูกอ้างถึงในเว็บไซต์ นั้น เป็นโปรโตซัวในลำไส้สกุลหนึ่ง โดยทั่วไปเชื้อนี้ไม่ก่อโรคในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง เชื้อจะไม่ทนต่อความร้อน และกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งผัดไทย ปรุงให้สุกด้วยความร้อน จึงไม่น่าจะใช่สาเหตุดังกล่าว

"โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด อหิวาตกโรค และไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย เป็นต้น โรคเหล่านี้เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว หนอนพยาธิ โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวันหรือมากกว่า คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ อุจจาระอาจพบเยื่อมูกและมีเลือดปน ในบางรายมีอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้

ในการป้องกันโรค ขอให้ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนทั่วถึงและสะอาด ล้างผัก ผลไม้ด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้มีด เขียง หั่นอาหารดิบและอาหารสุกร่วมกัน ดูแลความสะอาดของภาชนะใส่อาหาร ห้องครัว และการกำจัดขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล ตามหลักสุขาภิบาลอาหาร เพื่อไม่ให้ปนเปื้อนเชื้อโรค" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ขอแนะนำประชาชนให้ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ดังนี้

1.กินร้อน คือ กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ในกรณีข้าวกล่อง อาหารถุง ต้องนำมาอุ่นให้ร้อนก่อนกินทุกครั้ง

2.ใช้ช้อนกลาง คือ เมื่อกินอาหารร่วมกัน ควรใช้ช้อนกลางในการตักอาหาร

3.ล้างมือ คือ ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินอาหาร ก่อนปรุงอาหาร หลังขับถ่าย และหลังสัมผัสสิ่งสกปรก

นอกจากนี้ ควรจัดให้มีน้ำดื่มที่สะอาด มีส้วมที่ถูกสุขลักษณะ มีการกำจัดขยะมูลฝอย และน้ำเสียที่เหมาะสมในบริเวณที่อยู่รวมกัน โดยเฉพาะในร้านอาหาร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

>> เปิดเกณฑ์เยียวยานักท่องเที่ยว หลังผัวเมียออสซี่โวยติดเชื้อปรสิตเพราะกินผัดไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook