โรงพยาบาลดังแจงดราม่า ทุบคนไข้สูงวัยซี่โครงร้าว อาจเป็นการเข้าใจผิดเอง

โรงพยาบาลดังแจงสื่อ กรณีครอบครัวร้องคนไข้สูงวัยโดนพยาบาลทุบซี่โครงร้าว อาจเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนไปเอง ขอเวลาตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะที่ญาติยันเดินหน้าหาคนผิดต่อไป

ความคืบหน้าจากกรณีที่ พันโทไพฑูรย์ อายุ 59 ปี นายทหารนอกราชการโวยเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลชื่อดังในจังหวัดอ่างทอง ได้ทำการทุบหน้าอกและตามลำตัวของนายสมพงษ์ อายุ 86 ปี อดีตกำนันแหนบทองคำ ซึ่งเป็นบิดา เป็นเหตุทำให้ซี่โครงร้าว หลังเข้ารักษาจากอาการน้ำท่วมปอด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดในวันนี้ (10 ก.ค.) ที่โรงพยาบาลอ่างทอง นพ.ณรงค์ คันธกุลดุษฎี รอง ผอ.กลุ่มภารกิจพัฒนาระบบบริการและสนับนุนบริการสุขภาพและด้านการเงินการคลัง พร้อมด้วย พญ.รัตน์เกล้า สุมานิก รอง ผอ.กลุ่มภารกิจบริการปฐมภูมิและนางกาญจนา เทียรเดช รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ได้แถลงข่าวชี้แจงกับสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว

โดยระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กับญาติของคนไข้ ที่คนหนึ่งก็เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเอง ในเบื้องต้นได้ส่งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมดูอาการของผู้ป่วยแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากขั้นตอนการรักษาที่คนไข้ที่ใส่เครื่องช่วยหายใจจะต่อต้านและพยายามนำออก โดยการใส่ต้องมีการจับมือและเท้าเพื่อที่จะทำให้การใส่สายเครื่องช่วยหายใจสามารถทำได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดรอยช้ำได้ คนไข้ที่ใส่เครื่องช่วยหายใจทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัวส่วนใหญ่จะดิ้นตลอด ทำให้ต้องมีการช่วยกันจับหรือมัดไว้ แต่กรณีนี้คนไข้รู้ตัวดีตลอด

>> โวยพยาบาลห้อง ICU โรงพยาบาลดัง รุมทุบพ่อวัย 86 จนซี่โครงร้าว

ส่วนมีการระบุว่ามีอาการซี่โครงร้าวนั้น ตอนนี้ได้ประสานทางผู้ป่วยเข้ามาทำซีทีสแกนแล้ว แต่ต้องรอผลประมาณ 2 วัน โดยทางโรงพยาบาลไม่ได้ปล่อยปละละเลยหรือไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เบื้องต้นทาง นพ.ประภาส ลี้สุทธิพรชัย ผอ.โรงพยาบาลอ่างทองได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว โดยต้องรอผลจากการซีทีสแกนก่อนที่จะนำมาพิจารณาร่วมกันต่อไป

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า กรณีซี่โครงร้าวหรือหักส่วนใหญ่เกิดจากการทำ CPR ซี่งกรณีผู้ป่วยท่านนี้ไม่มีการทำ CPR แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์อีกครั้ง แต่ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่การจับของเจ้าหน้าที่จะทำให้เกิดรอยช้ำและเกิดซี่โครงร้าวก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะคนไข้แต่ละคนมีแรงในการดิ้นไม่เท่ากัน เหมือนกับต้องสู้กัน

แต่ในเคสนี้คนไข้รู้ตัวตลอดจึงอยากให้รอผลการตรวจทางคอมพิวเตอร์อีกครั้งเนื่องจากที่เราตรวจสอบทางโรงพยาบาลเอกชนที่เอ็กซเรย์ซ้ำสงสัยว่ากระดูกซี่โครงซี่ที่ 5 ด้านขวาร้าว แต่ยังไม่ฟันธง เพียงแต่แนะนำให้มีการเอ็กซเรย์ซ้ำ ซึ่งหากผลออกมาก็คงจะทราบว่าเป็นอย่างไร เบื้องต้นขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

ขณะที่ พันโทไพฑูรย์ ลูกชายของลุงสมพงษ์เปิดเผยว่า เบื้องต้นการแถลงข่าววันนี้ของทางโรงพยาบาลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอยู่หลายส่วน ทำให้ทางญาติยืนยันที่จะเดินหน้าในการที่จะหาคนทำผิดในครั้งนี้มาลงโทษให้ได้ เพื่อที่ผู้ป่วยคนอื่นจะได้ไม่ถูกกระทำอีก โดยจะรอผลซีทีสแกนก่อนที่จะดำเนินการในขั้นต่อไป