เด็กตาย-สาวท้องไม่รอด ปาปัวนิวกินีนองเลือด เปิดฉากสังหารหมู่ 2 ชนเผ่า

เกิดเหตุโศกนาฏกรรมรุนแรงที่ปาปัวนิวกินี 2 ชนเผ่าท้องถิ่นเกิดปะทะกันอย่างรุนแรง ควักปืน-ชักมีดออกมาไล่ฆ่าผู้คนตายเป็นเบือ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งกว่า 20 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุฆาตกรรมสังหารหมู่ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ศพ รวมทั้งเด็กและหญิงสาวตั้งครรภ์ เหตุการณ์สุดสยดสยองในครั้งนี้เกิดขึ้นในประเทศปาปัวนิวกินี ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่ไล่ล่าติดตามหาผู้ก่อเหตุ โดยสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากสงครามระหว่าง 2 ชนเผ่าในท้องถิ่น

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเฮลา ทางภาคตะวันตกของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ทุรกันดารและห่างไกลความเจริญ เป็นที่อยู่ของบรรดาชนเผ่าท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในเขตหลักการปกครองของตัวเอง เหตุการปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่องอย่างน้อย 3 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการถูกสังหาร 16 ศพ ก่อนจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 24 ศพ อย่างไม่เป็นทางการ

ทั้งนี้เชื่อว่าการสังหารหมู่ครั้งนี้ น่าจะเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างชนเผ่าท้องถิ่น คนร้ายได้ใช้ปืนเป็นอาวุธในการสังหารหมู่ในครั้งนี้ พยานอ้างว่าคนร้ายกราดยิงใส่ผู้คนแบบไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม รวมทั้งยังใช้มีดดาบไล่ฟันอย่างโหดเหี้ยมด้วย โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงท้องถิ่น วัยยังไม่ถึงอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ที่หลบหนีการโจมตีไม่ทัน

วิลเลียม บันดู ผู้ว่าการจังหวัดเฮลา เปิดเผยว่า การปะทะกันระหว่าง 2 ชนเผ่าท้องถิ่นกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรง และเชื่อว่าน่าจะมีเหยื่อผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ขณะนี้ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จากเดิมที่ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่เพียงน้อยนิดและไม่เพียงพอ

ขณะที่ เจมส์ มาราปี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของปาปัวนิวกินี เพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นาน ได้ออกแถลงแสดงความเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ถือเป็นวันน่าเศร้าสลดของชาติ และประกาศไล่ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเข้มข้น