สุดเวทนา พ่อเข็นศพลูกชายป่วยตายมาที่วัด วอนขอแค่ใช้เมรุ เผาส่งลูกสู่สุคติ

สุดเวทนา พ่อเข็นศพลูกชายป่วยตายมาที่วัด วอนขอแค่ใช้เมรุ เผาส่งลูกสู่สุคติ

สุดเวทนา พ่อเข็นศพลูกชายป่วยตายมาที่วัด วอนขอแค่ใช้เมรุ เผาส่งลูกสู่สุคติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพสุดเวทนา พ่อเก็บของเก่าเข็นศพลูกชายเพิ่งป่วยเสียชีวิตมาที่วัด ขออนุญาตให้เมรุเผาศพลูก เพราะไม่มีเงินจัดงานศพ ซ้ำยังไม่รู้ขั้นตอนต่างๆ ผู้กำกับการฯ ควักเงิน-เป็นประธานงานศพให้

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้รับแจ้งว่า พบชายชรากำลังจะศพไปเผาที่เมรุ ภายในวัดทุ่งสว่างชัยภูมิ เขตเทศบาลเมืองยโสธร โดยที่ไม่มีการแจ้งให้กับทางวัดทราบล่วงหน้า และไม่มีการทำพิธีสวดศพเหมือนกับพิธีทั่วๆ ไป ทางวัดจึงยังติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบสาเหตุด้วย

ภายหลังได้รับแจ้ง พันตำรวจเอก ปณิธาน ยามานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร พร้อมด้วยร้อยเวรป้องกันปราบปรามและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งและได้พบกับ นายสมพร อายุ 65 ปี โดยแสดงตัวเป็นพ่อของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในรถเข็น เมื่อตรวจสอบในรถเข็นที่จอดอยู่ ก็พบร่าง นายอมร อายุ 22 ปี ที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวปิดทับศพเอาไว้เท่านั้น

จากการสอบถาม นายสมพร เปิดเผยว่า ลูกชายป่วยมีโรคประจำตัวมานานแล้ว กระทั่งเมื่อช่วงสายของวัน ลูกชายได้เสียชีวิตลงอยู่ที่บ้านพัก ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะฐานะก็ยากจน ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจัดงานศพให้กับลูกชาย ส่วนญาติพี่น้องก็ไม่มีแล้ว ตนเก็บของเก่าขายประทังชีวิตไปวันๆ เท่านั้น

ซ้ำยังไม่รู้จักขั้นตอนในการดำเนินการใดๆ หากมีคนเสียชีวิตภายในบ้าน จึงได้ตัดสินใจแบกร่างลูกชายใส่รถเข็น แล้วจึงเข็นมาที่วัดใกล้ๆ กับบ้าน เพื่อจะขอสถานที่ในการเผาศพลูกชายเพียงเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงได้คุยกับทางวัด เจ้าหน้าที่ประจำวัดก็ตกใจเพราะตนไม่ได้แจ้งล่วงหน้ามาก่อน จึงได้โทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ เพื่อเข้าไปตรวจสอบสาเหตุของการเสียชีวิตดังกล่าว พร้อมกับได้แนะนำให้ตนไปแจ้งตายที่เทศบาลเมืองยโสธร เพื่อขอออกใบมรณบัตรตามขั้นตอน

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว และเห็นว่าพ่อกับผู้เสียชีวิตมีฐานะยากจน และไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนแล้ว ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร จึงได้มอบเงินช่วยเหลือในการจัดงานศพให้จำนวนหนึ่ง พร้อมกับรับเป็นเจ้าภาพในการจัดงานศพให้ โดยได้ประสานกับทางวัดเพื่อขอใช้สถานที่ในการทำพิธีจัดงานศพตามประเพณี

ทั้งนี้ ทางวัดทุ่งสว่างชัยภูมิ ยินดีที่จะทำพิธีจัดงานศพให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ และกำหนดทำพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 1 คืน และจะทำพิธีเผาศพในวันนี้ (11 ก.ค.) ต่อไป ความเมตตากรุณาในครั้งนี้ นายสมพร พ่อของผู้เสียชีวิต รู้สึกซึ้งใจและขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้ได้มีโอกาสจัดงานศพให้กับลูกชายของตน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook