สั่งย้าย-ตั้งกรรมการสอบ 7 ตำรวจ หลังคลิปรุมทำร้ายผู้ต้องหาถูกใส่กุญแจมือว่อนเน็ต
พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 7 นาย ตั้งแต่สารวัตรถึงผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.หลักสอง ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่าผิดวินัยผิดจริง ให้ดำเนินการตามกฎหมาย จากกรณีคลิปชายเสื้อขาวที่ถูกใส่กุญแจมือ นั่งอยู่ท้ายกระบะถูกตำรวจรุมทำร้าย ด้วยการตบหน้าและใช้อาวุธคล้ายท่อแป๊บสีดำตีที่ขาหลายครั้ง ก่อนนำตัวลงจากรถกระบะเพื่อเข้าไปใน สน.หลักสอง ระว่างนั้นมีตำรวจอีกนายตีเข่าเข้าที่ท้องของชายเสื้อขาว ก่อนพาตัวเข้าไปในโรงพัก และกำลังเป็นคลิปที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลว่าตำรวจทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่
>> คลิปว่อนโซเชียล 7 ตำรวจรุมซ้อมผู้ต้องหา ผู้กำกับฯ ยอมรับลูกน้องหมดความอดทน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.อรรถวุฒิ นิวาดโสภณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหลักสอง ชี้แจงว่า วันเกิดเหตุตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีคนเมาสารเสพติดอาละวาดภายในวัดบุณยประดิษฐ์ ถนนพุทธมณฑล สาย 2 จึงเข้าตรวจสอบและช่วยกันจับกุม ระหว่างคุมตัวมา สน.หลักสอง ชายคนดังกล่าวต่อสู้ขัดขืน ด่าทอ และถ่มน้ำลายใส่ตำรวจมาตลอดทาง โดยยอมรับว่าผู้ใต้บังคับบัญชาอดกลั้นไม่ไหว จึงทำร้ายร่างกายดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีสื่อโซเชียลมีเดียได้นำเสนอคลิปวิดีโอที่ระบุตำรวจทำร้ายผู้ต้องหาว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สน.หลักสอง บก.น.9 ว่าเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 62 เวลาประมาณ 11.00 น. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.หลักสอง ว่ามีเหตุบุคคลวิกลจริตอาละวาดภายในศาลา 60 พรรษา วัดบุณยประดิษฐ์ แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม.
หลังจากนั้น ร.ต.อ.วิชาญ ช่มช่วง รอง สวป. สน.หลักสอง พร้อมพวก จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว กระทั่งพบชายไม่ทราบชื่อ-สกุล รูปร่างสูงใหญ่ ขณะกำลังอาละวาดและอยู่ในอาการมึนเมาไม่ได้สติ ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมายัง สน.หลักสอง โดยขณะนำตัวมานั้นผู้ต้องหาได้ด่าทอ ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้กำลังขัดขืนไม่ยอมสงบนิ่ง เจ้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีเพื่อหยุดยั้งและระงับการกระทำของผู้ต้องหา ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นไปยังห้องควบคุม ลงบันทึกจับกุม ข้อหาเมาสุราหรือสิ่งมึนเมา ส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
โดย รองโฆษก ตร. ชี้แจงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจว่า ตามหลักยุทธวิธีจะคำนึงถึงความปลอดภัย ระดับการใช้กำลัง ในขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่การจับกุม การตรวจค้น การควบคุมผู้ต้องหา โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มิได้มีเจตนาที่จะทำให้ผู้ที่ถูกจับกุมหรือประชาชนได้รับบาดเจ็บ หรือกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความโปร่งใส ทาง พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผบก.น.9 จึงมีคำสั่งให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหามีการขัดขืนการจับกุม ต่อสู้เจ้าหน้าที่หรือไม่ โดยหากพบว่ามีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย